หุ้นไทยผันผวนตามทิศทางการเมือง

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตลาดหุ้นไทยระยะหลังมานี้ ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งค่อนข้างมีผลอย่างมาก ทำให้ตลาดหุ้นไทยเดาทางได้ยาก

ย้อนกลับไปประมาณ 2 เดือนก่อน ช่วงที่มีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส. เมื่อผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเริ่มปรากฎ ซึ่งแนวโน้มคะแนนผู้ชนะ จะเอนไปทางพรรคก้าวไกล ทำให้หลังจากวันเลือกตั้ง

เช้าวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 ตลาดหุ้นไทย เริ่มปรากฎตัวแดงทั้งกระดาน โดยปิดตลาดไปที่ระดับ 1,541.38 จุด ปรับลดลง 19.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,383.81 ล้านบาท จากนั้นช่วงกลางสัปดาห์ ปิดตลาดในแดนบวก โดยปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ รวมแล้ว หุ้นไทย ติดลบไปกว่า 20 จุด โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ หุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากนโยบายที่พรรคก้าวไกล ได้หาเสียงไว้ ขัดกับการดำเนินธุรกิจ ทำให้หุ้นขนาดใหญ่หลายกลุ่ม ร่วงกราว

กระทั่งล่าสุด วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งแรก ปรากฎว่า ผลโหวตของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ผู้ที่ถูกเสนอชื่อในสภาเพียงคนเดียวนั้น ได้รับคะแนนเสียงไม่เพียงพอที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 และต้องรอลุ้นผลโหวตใหม่ในครั้งต่อไป วันที่ 19 กรกฎาคม 2566

ทำให้เช้าวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2566 ตลาดหุ้นไทยเปิดกลับมาอยู่ในแดนบวก และบวกตลอดทั้งวัน ปิดตลาดไปที่ระดับ 1,517.92 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 23.90 จุด รวมมูลค่าการซื้อขาย กว่า 43,600 ล้านบาท

ซึ่งหุ้นกลุ่มที่ดูสดใสมากที่สุด คือ หุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงหุ้นของธุรกิจใหญ่ ๆ เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร หุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน หุ้นกลุ่มคมนาคม เป็นต้น โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่านักลงทุนต่างชาติและโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ เป็นการกลับเข้าซื้อมากกว่าเทขาย ส่วนนักลงทุนไทย ส่วนใหญ่จะเทขายหุ้น

ซึ่งก็อาจมองได้ว่านักลงทุนในตลาด ยังกังวลว่าฝ่ายใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล ทิศทางต่อไป นักวิเคราะห์ก็มองว่ายังคงต้องเกาะติดสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด