อุ๊งอิ๊ง ดัน เศรษฐา ชิงนายกฯ

เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้ ก้าวไกล แต่พรุ่งนี้จะเป็นเพื่อไทยหรือเปล่าไม่รู้ หลังมีความชัดเจนจากพรรคก้าวไกลว่า หากเสียงโหวตสนับสนุน คุณพิธา วันนี้ไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีแทน ไปติดตามบรรยากาศจากทางพรรคเพื่อไทยกัน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เมื่อวานเดินทางไปร่วมประชุมที่พรรค โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนเต็มที่ จะโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม ส่วนกรณีโหวตไม่ผ่านตามที่นายพิธาได้แถลงเอาไว้ จะต้องกลับไปพูดคุยกันก่อน ทั้งในที่ประชุมของ 8 พรรคร่วมฯ และที่ประชุมของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีแนวทางที่จะเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นชื่อแรก

ส่วนกรณีของ สว. ที่ระบุว่า หากมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลก็จะไม่โหวตให้ แม้เป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ขอให้เป็นเรื่องที่ 8 พรรคร่วมฯ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยต้องไปพูดคุยกัน เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ตนเองไม่สามารถตอบแทนได้ และยังไม่มีการวางฉากทัศน์แบบนั้น นอกจากนี้ คุณอุ๊งอิ๊ง ยังกล่าวถึงกำหนดการกลับบ้านของคุณพ่อด้วย โดยระบุว่า เลื่อนนิดหน่อย เพราะการเลือกนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่เสร็จ รอให้การเมืองนิ่งก่อน แต่ไม่ทราบว่านิ่งในความหมายของคุณพ่อคือนิ่งเบอร์ไหน

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยอีกท่านหนึ่ง เดินทางไปถึงพรรคประมาณ 14.00 น. ซึ่ง คุณอุ๊งอิ๊ง ได้มายืนรอทักทาย นายเศรษฐา ที่หน้าห้องแถลงข่าวด้วย 

นายเศรษฐา กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า วันนี้ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เพราะ นางสาวแพทองธาร ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เมื่อถามว่าเป็นเพราะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ หรือไม่ จึงไม่ให้สัมภาษณ์ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะยังมีขั้นตอนของกรรมการบริหารพรรคอีก เพราะเรื่องปากท้องก็สำคัญอยู่ เมื่อถามย้ำว่า หากเสนอชื่อแบบนี้ส่วนตัวโอเคหรือไม่ นายเศรษฐา ไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้ม แล้วตัดบทชวนคุณอุ๊งอิ๊งขึ้นไปประชุมบนตึกทันที

ยิ่งดูความคึกคักของฝั่งเพื่อไทยแล้ว ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของพรรคก้าวไกลวันนี้จะมีแรงกดดันสูงไม่น้อย โดยครั้งนี้หากไม่สามารถได้รับเสียงโหวตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งผลต่อ MOU ด้วย และการเติมพรรคอื่นเข้ามาสนับสนุนด้วย ไปฟังสัญญาณชัด ๆ ในเรื่องนี้จาก นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

คุณหมอชลน่าน ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงคะแนนเสียงที่มีนัยสำคัญของก้าวไกลว่า ควรมีคะแนนเพิ่มขึ้น 10% ซึ่ง คุณพิธา บอกว่า ประมาณ 344-345 คะแนน แต่ถ้าดูคำว่า 10% หมายความว่าต้องได้เพิ่มอีก 32 คะแนน เมื่อไปรวมกับ 324 เสียง จากรอบแรก ต้องได้คะแนน 356-360 เสียง จึงเป็นไปตามเงื่อนไขที่พูดคุยกันได้ แต่พรรคก้าวไกลยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการให้พรรคอันดับ 2 ตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะมาทึกทักเป็นโอกาสของตัวเองไม่ได้ โดยความชอบธรรมต้องรอให้มีแถลงการณ์ของพรรคอันดับ 1 ก่อน ส่วนกรณีที่ คุณแพทองธาร ระบุว่า จะเสนอชื่อ คุณเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คุณหมอชลน่าน ตอบว่า เป็นความเห็นของ คุณแพทองธาร จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมพรรคก่อน ส่วนจะนำชื่อ นายเศรษฐา เสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 กรกฎาคม ได้ทันทีหรือไม่ หากชื่อนายพิธาไม่ผ่านนั้น ในทางปฏิบัติไม่ควรยื่นญัตติซ้อน เพราะชื่อ นายเศรษฐา ไม่เคยนำเข้าที่ประชุม 8 พรรคร่วมฯ เพื่อหารือมาก่อน คงต้องรอดูเหตุการณ์ในวันที่ 19 กรกฎาคม อีกครั้ง

ไปดูฟากรัฐบาลบ้าง ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูอารมณ์ดีทักทายสื่อมวลชน โดยกล่าวสวัสดีถึง 3 ครั้ง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะสนับสนุน พลเอก ประวิตร หากมีการเสนอชื่อโหวตชิงนายกฯ ในวันที่ 19 กรกฎาคม หรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ ไม่ตอบ เพียงแต่กล่าวสวัสดี และยิ้มให้สื่อมวลชน

ด้าน พลเอก ประวิตร ท่านก็อารมณ์ดี ดูสง่าราศีจับ แต่ปฏิเสธการตอบคำถามใด ๆ เหมือนกัน สื่อพยายามถามถึงกระแสข่าวที่ว่าจะส่งชื่อท่านชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฝ่าทางตันทางการเมือง ท่านก็ยิ้มรับ พอถามต่อว่า หากพรรคเพื่อไทยมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พรรคพลังประชารัฐจะโหวตให้หรือไม่ พลเอก ประวิตร ก็ยิ้มตอบ ก่อนที่จะเดินขึ้นรถ และเดินทางกลับอย่างรวดเร็ว

แต่คนนี้ยอมตอบ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานผู้ประสานงาน สส.ในสภาของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ 2 ยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใด ขอให้การโหวตในวันพรุ่งนี้ผ่านไปก่อน ส่วนเรื่องกระแสข่าวการผลักดัน พลเอก ประวิตร ขึ้นชิงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าพรรคพลังประชารัฐมีแนวทางที่ไม่สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย