พิธา กังวล ฟันเสนอญัตติซ้ำ สกัดคนเดียว มีผลผูกมัดถึงอนาคต

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่รัฐสภาเมื่อวานนี้มีการประชุมวิปทั้งสามฝ่าย โดยวาระสำคัญ คือ การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติหรือไม่ และถ้าเป็น จะสามารถเสนอชื่อคุณพิธาซ้ำหรือเปล่า เพราะผิดข้อบังคับการประชุมของสภา ขณะที่อีกด้านหนึ่งมองว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีข้อห้ามว่าจะเสนอชื่อซ้ำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ 

กระแสข่าวว่าจะมีการเสนอให้ใช้ มาตรา 41 ไม่ให้เสนอญัตติซ้ำ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อคุณพิธาได้นั้น คุณพิธา บอกว่า มีความกังวลใจถ้าจะทำเช่นนี้เพื่อสกัดกั้นตนคนเดียว เพราะต่อไปนี้หากเป็นในเชิงรัฐศาสตร์ คนที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะต้องมีการเสนอชื่อ หากเป็นญัตติหมด ไม่ว่าจะเป็นฝั่งศาล ฝ่ายบริหาร หรือสภา แล้วโดนบังคับเช่นนี้หมด ก็จะเป็นการผูกที่แก้มัดได้ยากมาก และจะเป็นปัญหาต่อผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไปในอนาคต ไปฟังเสียงคุณพิธาในเรื่องนี้

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมวิปสามฝ่ายยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ ดังนั้น ต้องดูจากหน้างานว่าจะใช้ดุลยพินิจของประธานสภา หรือใช้มติที่ประชุมรัฐสภา จะต้องรับฟังข้อมูลจากสมาชิกทุกฝ่ายอย่างครบถ้วน ทั้งนี้ ในการหารือวิป 3 ฝ่าย มีผู้เสนอว่าจะอภิปรายเรื่องนี้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่ก็ต้องดูหน้างานอีกเช่นกัน ส่วนหากชื่อ นายพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ แล้ว จะเสนอชื่อบุคคลอื่นเพื่อโหวตนายกฯ ต่อได้เลยใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไว้ แต่ยังไม่ทราบว่าที่ประชุมรัฐสภา จะเสนอชื่อบุคคลใดต่อ

ขณะที่อีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงเมื่อวานนี้ คือ หลังจาก ป๊าเสรี พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมายอมรับว่าได้ไปดีลพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมโหวต คุณพิธา พร้อมวาทะร้อน ๆ ไปถึงก้าวไกลว่า "ถ้าไม่เอาก็โง่แล้ว" ก็มีเสียงสะท้อนมาจากทางพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์ เช่นกัน

ถ้าจับคำพูดกันดี ๆ ก็ดูเหมือนว่า คุณวราวุธ กำลังหยอดไปยังเพื่อไทยสอดรับกระแสที่อาจสลับขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ หากคุณพิธาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจาก สว. อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งยังย้ำเงื่อนไขชัด ๆ ว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางที่จะแก้ไขมาตรา 112 ก็น่าจะคุยกันได้

เช่นเดียวกับทาง พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล โทรหา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ขอพูดรายละเอียด แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเจรจาในการตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่แตะมาตรา 112 เป็นจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคมาตั้งแต่ต้น ส่วนหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ขอตอบ เพราะยังไม่เกิดขึ้น เมื่อถามว่าจะเปลี่ยนจาก "งดออกเสียง" เป็น "ไม่เห็นด้วย" หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้รอการประชุมมติพรรคซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ก่อนการโหวต หากมีมติอย่างไรก็จะโหวตไปทางเดียวกัน

อีกด้านหนึ่ง มีการถามเรื่องนี้ไปยัง นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ยอมรับว่ามีการติดต่อไปยัง นายเฉลิมชัย จริง แต่เจตนาคืออยากจะเช็กท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร หากมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯ จากเสียงข้างน้อย ไม่ได้เป็นการรวมเสียงโหวตพิธา