ก้าวไกล ถก เพื่อไทย เดินหน้าตั้งรัฐบาล 8 พรรค ต่อ

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวาน พรรคก้าวไกล เข้าไปหารือ พรรคเพื่อไทย ถึงทิศทางร่วมตั้งรัฐบาลต่อ หลัง นายพิธา ชวดนายกฯ แต่ยังไม่เคาะชื่อ นายเศรษฐา ชิงนายกฯ คาดชัดเจนหลังวันที่ 25 กรกฎาคมนี้
  
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมประชุมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม มีมติไม่ให้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ในรอบที่ 2 เพราะเป็นญัตติขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 หรือ เสนอญัตติที่ตกไปแล้วซ้ำ

หลังการประชุม นายชัยธวัช บอกว่า ไปหารือกับเพื่อไทยถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ทิศทางหลักตอนนี้ คือ พยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมทั้ง 8 พรรค ให้สำเร็จ ส่วนแนวโน้มในการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า นายพิธา เคยแถลงไว้แล้ว หากประเมินแล้วโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกเป็นนายกฯ ไม่มีความเป็นไปได้ ก็คงต้องเปิดโอกาสให้กับประเทศ อยู่บนกรอบการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของ 8 พรรคร่วม และเอ็มโอยูที่ทำร่วมกันไว้

นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้คุยกัน จิตใจดี แข็งแรงดี ที่ผ่านมา นายพิธา ไม่ได้พักผ่อนเลย จึงขอไปพักผ่อนกับลูกสาว และในวันที่ 22 กรกฎาคม ก็จะกลับมาทำงานกันอีกครั้ง

ส่วน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มองว่า การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี และพรรคที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ต้องไม่มีเรื่องของการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 ไม่อย่างนั้น จะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. รวมถึงพรรคการเมืองอื่น

ขณะเดียวกัน เมื่อวานมีรายงานข่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดย นายเศรษฐา ได้หารือกับแกนนำพรรคว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลให้ราบรื่นต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลด้วย เพื่อให้มีเสียงสนับสนุนของประชาชน โดย นายเศรษฐา ขอมีส่วนร่วมจัดคณะรัฐมนตรี พร้อมขอให้พรรคเพื่อไทยไม่เสนอชื่อบุคคลที่มีภาพลักษณ์ไม่ดีเป็นรัฐมนตรี

นายเศรษฐา ยังเสนอว่า ไม่ควรนำพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมรัฐบาล เพราะเคยเป็นแกนนำ กปปส. และพร้อมรับพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาล แต่ต้องไม่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาร่วมเป็น ครม.

พอมีกระแสข่าว นักข่าวเลยนำเรื่องนี้ไปสอบถามกับเจ้าตัวอีกครั้ง ซึ่ง นายเศรษฐา ตอบว่า ยังไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย รวมถึงเงื่อนไขที่ขอจัดตั้งรัฐมนตรีเองคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสม ส่วนเงื่อนไขจะร่วมกับใครหรือไม่นั้น ต้องรอให้ 8 พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันและมีข้อสรุปก่อน แต่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีข้อสรุปว่า จะเสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่

ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยหลังการหารือกับพรรคก้าวไกลว่า มติผู้บริหารพรรคมอบหมายให้ตนพิจารณาว่า เมื่อถึงเวลาการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะทำอย่างไร คาดว่าน่าจะชัดเจนหลังวันที่ 25 กรกฎาคม ส่วนจะเดินหน้าคุยกับ สว. เลยหรือไม่นั้น คงต้องรอพรรคก้าวไกลไปประชุมภายในแล้วแจ้งมา เพื่อเริ่มกระบวนการคุยอย่างเป็นทางการ

นายแพทย์ชลน่าน บอกว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้ติดใจว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยจะเป็นใคร แต่ที่ยังประกาศไม่ได้เพราะต้องดูสถานการณ์ทั้งหมด ถ้าเพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ ต้องมั่นใจว่าจะได้

นายแพทย์ชลน่าน ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่แตะมาตรา 112 และใน MOU ก็ไม่แตะมาตรา 112 ถ้าเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะไม่มีใครแตะ 112

ส่วนกรณีที่มองว่า สว. หลายคนตั้งแง่ว่า หากยังมีพรรคก้าวไกลจะไม่โหวตให้นั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ในข้อเท็จจริงที่ สว. อภิปราย คือ มีประเด็นเรื่องมาตรา 112 ที่เป็นอุปสรรคต่อการโหวตของ สว. แต่เมื่อเพื่อไทยมาเป็นแกนนำ เรามีเป้าหมายจะต้องรวมเสียงให้ได้ แต่การจะหาคะแนนจาก สว. ต้องใช้กลไกหลายอย่าง