พรรคเพื่อไทย หารือ 3 พรรครัฐบาลเดิม ขอลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี

ข่าวภาคค่ำ - วันนี้พรรครัฐบาลเดิม เข้าหารือกับพรรคเพื่อไทย หลังได้รับคำเชิญเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ รวมไปถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงได้รับการยืนยันหนักแน่นไม่สนับสนุนพรรคที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และยังไม่ได้เชิญให้มาร่วมรัฐบาล

พรรคเพื่อไทย หารือ 3 พรรครัฐบาลเดิม ขอลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
หลังจากมติ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้วางแนวทางที่ให้ พรรคเพื่อไทย ขอเสียงสนับสนุนให้เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา หรือ 375 เสียง ไปเจรจากับ สส. พรรคการเมืองอื่น

ทำให้วันนี้ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำที่ต้องเจรจากับ 3 พรรครัฐบาลเดิมที่ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย, พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อขอเสียงสนับสนุนเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ได้เข้าพรรคกันตั้งแต่ช่วงเช้า และให้การต้อนรับ พรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางมาเป็นพรรคแรก ร่วมหารือเพื่อขอเสียงสนับสนุนเลือกนายกรัฐมนตรี ก่อนที่พรรคออกมายืนยันไม่สามารถร่วมงานกับ พรรคก้าวไกล ได้ เช่นเดียวกับ พรรคชาติพัฒนากล้า ที่มองว่าการดำเนินนโยบายของพรรคไม่ตรงกันโดยเฉพาะการให้แก้ไขมาตรา 112 และพรรคสุดท้ายของการพูดคุยอย่าง รวมไทยสร้างชาติ ยืนยันเหมือนเดิมที่จะไม่เอา พรรคก้าวไกล​ และการแก้ไขมาตรา 112 โดยการมาวันนี้ไม่ได้แจ้งกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะได้ลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคไปแล้ว

นายแพทย์ ชลน่าน เตรียมนำผลการหารือกลับไปบอกพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค แต่ยืนยันว่า ไม่ได้เลิกจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ไม่ได้หารือเรื่องจัดตั้งรัฐบาลกับ 3 พรรคที่มาในวันนี้ และยังไม่มีการนัดหารือกับ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์

พิธา ปราศรัยแนะ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล อย่าทิ้งกัน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันกับประชาชนที่สนับสนุนให้ร่วมต่อสู้กันต่อไป อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น พร้อมเปรียบเทียบเหมือนการลงเรือลำเดียวกัน ต้องช่วยกันซ่อมแซมหากเรือรั่ว พร้อมขอให้ 8 พรรค รักษาสัจจะ เรือย่อมถึงฝั่ง

พิธา ลงพื้นที่ จ.ระยอง  เร่งส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการสุราพื้นบ้านเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายพิธา ก็ยังได้เดินทางต่อไปที่งานระดมทุน คณะทำงาน จังหวัดสุราก้าวหน้า ณ ดิโอโซน มาร์เก็ต จังหวัดระยอง เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ เกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ที่ไม่ได้มีจุดประสงค์ต้องการเพิ่มจำนวนนักดื่ม แต่มุ่งจะส่งเสริมให้เกิดผู้ผลิตรายย่อยและรายใหม่เพิ่มขึ้น สร้างเม็ดเงินให้กระจายลงสู่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี แทนที่จะผูกขาดอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ซึ่งบรรยากาศภายในงาน ก็มีผู้ประกอบการสุราพื้นบ้านกว่า 30 ราย นำสุราพื้นถิ่นที่ผลิตเอง มาจัดแสดง รวมทั้งยังมี "ด้อมส้ม" มาคอยให้กำลัง นายพิธา เป็นจำนวนมากด้วย