ชลน่าน แจงปมให้พรรคอันดับ 3 ตั้งรัฐบาล

เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้ ต้องจับตาการนัดคุยของ 8 พรรคร่วมที่จะจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ หลังจากที่ผ่านมาเดินสายคุยกับหลายพรรคการเมือง และ สว. ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ชี้แจงกรณีบอกว่าจะเปิดทางให้พรรคอันดับ 3 ตั้งรัฐบาล เป็นแค่ทางเลือกที่มีคนเสนอมาเท่านั้น 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการนัดพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ (25 ก.ค.) ว่า วาระสำคัญ คือ จะนำการบ้านที่ 8 พรรคร่วมฯ มอบให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการเสนอในที่ประชุม คือ คำตอบจากทาง สว. ว่า มีเงื่อนไขอะไร ต่อการจัดตั้งรัฐบาลได้ รวมถึงคำตอบจาก สส. ด้วย ส่วนที่ สว. บางส่วนบอกว่า ถ้าไม่มีพรรคก้าวไกล สว. อาจจะโหวตให้นั้น ก็จะนำเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมด้วย เพื่อร่วมพิจารณาหาทางออก

นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีที่ระบุว่า หากพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 หมดปัญญาในการจัดตั้งรัฐบาล จะมอบให้พรรคอันดับ 3 ดำเนินการนั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ความหมายของตนเพียงจะบอกว่า มีคนเสนอทางเลือกอื่นมาทำนองนี้ซึ่งมันเป็นทางเลือก จะเกิดขึ้นหรือไม่เราไม่รู้ 

ส่วนข้อเสนอให้เลื่อนการโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ออกไปก่อนหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของประธานรัฐสภา และขึ้นอยู่กับความเห็นของวิปทั้ง 3 ฝ่าย

อีกประเด็นที่ทำให้คนในโซเชียลต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก คือ กรณีที่ นายแพทย์ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ว่า 10 พรรคที่มัดกันแน่น ถ้ารวมเป็น 1 พรรค จะได้ 188 เสียง เป็นอันดับ 1 ในสภา ส่วนพรรคก้าวไกลเป็นอันดับ 2 ได้ 151 และ พรรคเพื่อไทย เป็นอันดับ 3 คือได้ 141 เมื่อเราไม่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด จึงมีความลำบากสักนิด

ทำให้คนในโซเชียลต่างเข้าไปคอมเมนต์ถล่มในทวิตเตอร์ของพรรคเพื่อไทย บอกว่า เป็นตรรกะอุบาทว์ เป็นตรรกะที่บิดเบี้ยว พูดจากลับไปกลับมาไม่รักษาสัจจะ บางคนก็คอมเมนต์ว่า ไม่เอาสูตรผสมขั้ว ไม่เอาพรรคอันดับ 3 มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล บางคนก็บอกว่า "เหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกเพื่อนกัน"

ขณะที่ นายแพทย์ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "10 แก๊ง รวมกันได้เลขรวมเป็นอันดับหนึ่ง ตรรกะวิบัติ ครู อาจารย์ ในอดีตคงได้แต่ปลง เอา sum of gangs ไป compare กับเดี่ยว"

ส่วนท่าทีของพรรคอันดับ 3 อย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการรับไม้ต่อจัดตั้งรัฐบาลว่า ที่ไปพบกับ นายแพทย์ชลน่าน เมื่อวันเสาร์ ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ เป็นการคุยกันหาทางออกให้บ้านเมือง ตอนนี้ยังเหมือนเดิม และยังยืนยันว่า ไม่ร่วมตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกล เพราะว่าวิธีคิดต่างกัน

ส่วนการตั้งรัฐบาล มองว่าไม่ควรจะต้องรอนานถึง 10 เดือน เพื่อให้อำนาจ สว. หมดไปก่อน การบอกให้รอ 10 เดือน เป็นการพูดเพื่อตัวเอง ไม่ใช่พูดเพื่อบ้านเมือง

ส่วนท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกว่า การจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ต้องหารือร่วมกันภายในพรรคก่อน ซึ่งจะมีการประชุม สส. ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยยืนยันว่า การที่ พลเอก ประยุทธ์ วางมือทางการเมืองไม่เกี่ยวกับการเปิดทางให้พรรคไปร่วมงานกับเพื่อไทย

ทั้งนี้ ตามหลักการ ถ้าพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเป็นพรรคลำดับที่ 2 และหากพรรคลำดับที่ 2 ไม่สามารถจัดตั้งได้ ก็เป็นพรรคลำดับที่ 3 เมื่อ นายพิธา เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องเข้าใจระบอบประชาธิปไตย บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ เหมือนกับคนที่เป็นแฟนกัน หมั้นกันแล้วเขาก็เลิกกันได้ เหมือนพ่อแม่คลุมถุงชนมาเขาก็ยังเลิกกันได้

ส่วนความเห็นจากฝั่ง สว. นายสมชาย แสวงการ สว. ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อจากคนของพรรคเพื่อไทยจริง แต่ตอบไปว่าไม่ต้องมาพบ หากให้มาพบก็จะเหมือนกับเขามาสมัครองค์กรอิสระแล้วมาวิ่งเต้นกับเรา มันไม่เหมาะสม เราไม่ได้ติดที่จะมีหรือไม่มีพรรคก้าวไกล แต่ติดที่นโยบายมาตรา 112 หากจะแยกขั้วหรือสลับข้างต้องเอาให้ชัด ถ้ายังไม่ชัดก็ต้องเลื่อนออกไป เหมือนเป็นแขกไปร่วมงานแต่งงาน จะเอาเจ้าสาวคนไหน ก็ต้องเอาให้เคลียร์ ทั้งนี้ สว. ไม่ขัดข้องที่จะเลื่อนวาระเลือกนายกฯ วันที่ 27 กรกฎาคม ออกไป และหากจะเลื่อน มองว่าเลื่อนไปเล็กน้อย คือ วันที่ 3 สิงหาคม สามารถทำได้และไม่ล่าช้าเกินไป

ส่วน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวว่า แม้พรรคก้าวไกลจะประกาศอยู่กับพรรคเพื่อไทยอย่างไร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจ ซึ่งตอนนี้ โอกาสเกิดรัฐบาลปรองดองเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่อาจไม่ใช่การรวมทุกพรรค จะมีเพียงพรรคก้าวไกลที่อาจไม่ได้เข้าร่วม เพราะเป็นพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างจากพรรคอื่น ๆ ส่วนการเปิดทางนายกฯ คนนอก ก็มีโอกาสเกิดได้เช่นกัน