แจ้งข้อหาลูกสาว ยิงพ่อตายคาสวนทุเรียน จ.ชุมพร
เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจคุมตัวลูกสาวทำตัวไฮโซ เช่ารถหรูวันละ 10,000 บาท มาสอบปากคำ หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยยิงพ่อตัวเองเสียชีวิตคาสวนทุเรียนหลังบ้าน แต่เจ้าตัวไม่ยอมให้ปากคำ อ้างจะให้การในชั้นศาล
ตำรวจภูธรหลังสวน นำตัว นางสาวจุฑาพร อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้ตาย มาสอบสวนที่สถานีตำรวจภููธรหลังสวน พร้อมรถเก๋ง BMW ที่ขับไปหาพ่อช่วงเกิดเหตุ
โดยนางสาวจุฑาพร ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียิงนายประสิทธิ์ อายุ 63 ปี พ่อของตัวเอง เสียชีวิต ภายในสวนทุเรียน หลังบ้านพัก ตำบลบ้านควน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
จากการสอบปากคำนางสาวจุฑาพร ไม่ยอมปริปากพูดใด ๆ ทั้งสิ้น อ้างเพียงว่าจะไปให้การในชั้นศาลอย่างเดียว
สอบถามนางชลิตา อายุ 58 ปี แม่ของนางสาวจุฑาพร และภรรยาของผู้ตาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวขับรถเก๋งมาที่บ้าน ส่วนตนทำงานอยู่ในบ้าน ขณะที่ สามี พกปืนเข้าไปในสวนหลังบ้าน เพราะสามีชอบพกปืนสั้นเข้าไปในสวนเป็นประจำ จนช่วงเย็นเดินเข้าไปตาม เพราะเห็นสามีหายไปนานเกิน จึงพบสามีถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่กลางสวนทุเรียน จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
ช่วงบ่าย ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝงภายในรถเก๋ง BMW
จากแนวทางการสืบสวน ทราบว่า นางสาวจุฑาพร เป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ที่ผ่านมาไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะไปประกอบธุรกิจทำร้านอาหารอยู่ใน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องปิดกิจการไป โดยเช่าอะพาร์ตเมนต์หรูอยู่ในย่านกลางเมืองชุมพร
ชอบทำตัวเป็นไฮโซ และเช่ารถเก๋ง BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i มาใช้เสียค่าเช่าวันละ 10,000 บาท จ่ายเป็นรายสัปดาห์ ๆ ละ 70,000 บาท เช่ามานานหลายเดือนแล้ว ที่ผ่านมาชอบไปขอเงินจากแม่มาใช้เป็นประจำ และมักจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อ บ่อยครั้งที่ลูกสาวชอบมาขอเงิน
ตำรวจสอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่าผู้ตายมักชอบยิงปืนบ่อยครั้ง และผู้ตายมักมีปากเสียงทะเลาะกับลูกสาวกันมาตลอด
แม้ผู้ต้องสงสัยจะไม่พูดอะไร แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น เชื่อว่า นางสาวจุฑาพร น่าจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อ แล้วเกิดแย่งปืนกันขึ้น แล้วลั่นใส่พ่อ 4 นัด เสียชีวิต
เบื้องต้นแจ้งข้อหา นางสาวจุฑาพร ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา(บุพการี) ส่วนข้อหาอื่น หากพบพยานหลักฐานเพิ่มสามารถแจ้งเพิ่มในภายหลังได้
หลังสอบปากคำเสร็จตำรวจได้คุมตัว นางสาวจุฑาพร ไปขออำนาจศาลจังหวัดหลังสวน ฝากขังต่อไป โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นางสาวจุฑาพร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นางสาวจุฑาพร ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด
