ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

หยุดแชร์! ข่าวปลอมโลกออนไลน์ "ดื่มน้ำมะนาวร้อน ไม่ได้ช่วยรักษามะเร็ง"


เป็นข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ ที่มีการแชร์มาอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี จน เพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ได้ออกมายืนยัน หยุดกินน้ำตาล ดื่มน้ำมะนาวร้อน ไม่ได้ช่วยรักษามะเร็ง !!

อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางแฟนเพจว่า

อันนี้ เป็นข่าวปลอมเก่ามากแล้ว ที่ไม่จริงครับ มีการเอาไปแก้มาหลายเวอร์ชั่นแล้ว ทั้งอ้างหมอรัสเซีย หมออินเดีย หมอไทย ฯลฯ

"มะเร็งเป็นโรคนะ Cancer is a disease"
มีแชร์กันเรื่องเคล็ดลับรักษาโรคมะเร็งอีกแล้ว คราวนี้มาจากเพจภาษาอาหรับ แล้วก็แชร์กันผ่านระบบแปลภาษาของเฟซบุ้ค โดยบอกให้หยุดกินน้ำตาล ดื่มน้ำมะนาวร้อน และดื่มน้ำมันมะพร้าว... ซึ่งบอกได้เลยว่า "ไม่จริง" นะ ความเชื่อเดิมๆ แบบผิดๆ อีกแล้ว
โพสต์ที่แชร์กันนั้น มาจากเพจภาษาอาหรับ โดยแปลได้มั่วๆ มาก เช่น มีรูปหมอหน้าแขกๆ ซึ่งชื่อ Dr. Gupta ก็ไปแปลเป็น "ดร. ปุ๊กกี้"
เนื้อหาเค้าบอกว่า "มะเร็งไม่ใช่โรค" ไม่มีใครตายจากมะเร็งถ้า
(1) หยุดการกินน้ำตาลทั้งหมด เมื่อไม่มีน้ำตาลในร่างกายแล้ว เซลล์มะเร็งก็จะตายหมดตามธรรมชาติ
(2) ผสมน้ำมะนาวกับน้ำร้อน ดื่มก่อนอาหาร 1-3 เดือน มะเร็งจะหายไปตามงานวิจัยของ the medical school of Maryland Chemical Therapy
(3) ดื่มน้ำมันมะพร้าวออร์กานิก 3 ช้อนโต๊ะ เช้าและกลางคืน มะเร็งจะหายไป ... โปรดแชร์ต่อๆ กัน
ทั้งหมดสามข้อนี้ ไม่ได้น่าเชื่อถืออะไรนะ ... มะเร็ง จริงๆ ก็คือเซลล์ในร่างกายของตัวเราเองที่ทำงานผิดปรกติ แบ่งตัวไม่ยอมหยุดและไปทำลายเซลล์อื่นๆ ดังนั้น

(1) แม้ว่าปัจจุบันเราจะรณรงค์ให้ลดการกินหวานกินเค็มลงไป แต่การที่หยุดกินสารอาหารใดๆ เช่น น้ำตาล โดยสิ้นเชิงนั้น ก็ทำให้ทั้งเซลล์มะเร็งและเซลล์ร่างกายปรกติของเราขาดอาหาร ตายไปด้วยกันทั้งหมดเลย ไม่ใช่แค่มะเร็ง
(2) น้ำมะนาวร้อน ไม่ได้จะมีสารเคมีอะไรมากมายที่จะเข้าไปฆ่าเซลล์มะเร็งได้พอให้เราหายจากโรค ชื่อ the medical school of Maryland Chemical Therapy ก็หาไม่เจอว่ามีจริงอยู่ตรงไหน
(3) น้ำมันมะพร้าวก็ไม่ได้จะไปฆ่าเซลล์มะเร็งได้นะ ปรกติคนเราก็ควรกินน้ำมันไม่เกินวันละ 3 ช้อนโต๊ะอยู่แล้ว นี่เล่นวันละ 6 เลย เดี๋ยวก็บริโภคไขมันอิ่มตัวเกินระดับที่เหมาะสมหรอก

สรุปสั้นๆ ว่า ไม่น่าเชื่อถือ อย่าแชร์กันครับ

BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์


ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark