สาวขายตั๋วรถตู้ร้อง โดนผู้มีอิทธิพลใน บขส. ชกหน้า
เช้านี้ที่หมอชิต - สาวขายตั๋วรถตู้ภายใน บขส. เขตเทศบาลนครอุดรธานีแจ้งความว่า ถูกผู้มีอิทธิพลใน บขส. อุดรธานี ทำร้ายร่างกายเมื่อกว่า 2 เดือนก่อน แจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า จึงนำคลิปวงจรปิดเข้ามาร้องเรียนกับสื่อ
นี่เป็นคลิปวงจรปิดที่ นางสาวรดา ศรีนกน้อย หรือ วิ อายุ 39 ปี ชาวอุดรธานี นำมาร้องสื่อมวลชนว่าถูกทำร้ายร่างกายใน บขส.แห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ผ่านมา 2 เดือนกว่าแต่เรื่องไม่คืบ แถมโดนข่มขู่ตลอด
นางสาวจิรดา เล่าว่า ตนเป็นพนักงานขายตั๋วรถตู้เอกชน ภายใน บขส.แห่งที่ 1 ก่อนเกิดเหตุมีฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่มาซื้อตั๋วรถตู้ไป จังหวัดขอนแก่น แต่ฝรั่งถามว่ารถทัวร์โดยสารไปขอนแก่นออกกี่โมง ตนตอบว่าออก 08.00 น. ฝรั่งจึงขอโทษและขอเปลี่ยนไปขึ้นรถทัวร์โดยสารแทน แต่พอฝรั่งได้ไปถาม นางณี ซึ่งขายตั๋วรถทัวร์โดยสาร ว่ารถออกกี่โมง ซึ่ง นางณี บอกว่า 07.00 น. ฝรั่งซื้อตั๋วรถทัวร์เสร็จ นางณี ก็เดินมาต่อว่าอย่างหยาบคาย หาว่าตนจงใจบอกเวลาผิด ตนขอโทษ แต่ นางณี ชกหน้าตนไป 1 ครั้ง ซึ่งในคลิปฝรั่งยังมาห้าม และพาตัว นางณี ออกไป ส่วนสามีนางณี ชื่อ รองไก่ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ดูแลสถานี บขส. แห่งที่ 1 เข้าล็อกตนไว้ แต่ด่าตนว่าเป็นต้นเหตุให้มีเรื่อง
แต่ นางสาวจิรดา บอกว่า หลังจากนั้น ตนโดน นางณี สามี และพวกข่มขู่ พูดจาประชดประชัน แสดงกิริยาคุกคาม ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จนต้องขอพักงาน 1 เดือนแล้ว จึงเข้าไปขอภาพวงจรปิดในสำนักงาน บขส. นำไปเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดี นางณี แต่คดีไม่คืบหน้า
นางสาวจิรดา ยังบอกอีกว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คนขับรถตู้บริษัทเดียวกับตน ก็ถูกกลุ่มนางณี ทำร้ายร่างกาย หาว่าไปแย่งผู้โดยสาร นางณี และ รองไก่ ทำตัวเหมือนเป็นผู้มีอิทธิพลใน บขส. ตนจึงมาร้องสื่อขอความเป็นธรรม และฝากถึงนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี ให้ตรวจสอบ รองไก่ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางณี คู่กรณี ซึ่งยอมรับว่าตนต่อว่า นางสาววิ ว่าจงใจบอกเวลาผิดจริง แต่ นางสาววิ ด่าถึงบุพการีตน ทำให้โมโหสุดขีดเลยชกหน้า ก็คิดว่าเรื่องจะจบแล้ว ไม่คิดว่า นางสาววิ จะแจ้งความดำเนินคดีกับตน และมากล่าวหาว่าตนและสามีเป็นผู้มีอิทธิพล
ส่วน นายวรวิทย์ ดิษฐ์เย็น หรือ รองไก่ อายุ 57 ปี กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยใน บขส. ตนไม่เคยรังแกใคร และไม่เคยใช้อิทธิพลกับใคร ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนก็ไม่เข้าข้างใคร แม้ว่า นางณี เป็นภรรยา รู้สึกเสียใจที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟีย ตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นมาเฟียได้อย่างไร จึงขอไม่ตอบโต้
มีรายงานว่า นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศบาลนครอุดรธานี เตรียมเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
