คอลัมน์หมายเลข 7 : พบล่าช้า! โครงการขุดลอกร่องน้ำปานาเระ งบฯ กว่า 77 ล้านบาท

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ตรวจสอบโครงการก่อสร้างขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเล ในอำเภอปานาเระ ร่วมกับ ปปช.จังหวัดปัตตานี พบการดำเนินการโครงการล่าช้ากว่าที่ระบุในสัญญา ติดตามรายละเอียดกับ คุณอรรถพล ดวงจินดา

เจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณโครงการก่อสร้างขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเล ริมปากอ่าวปานาเระ อำเภอปานาแระ เพื่อดูการขุดลอกทราย และดูดทราย ขณะที่เครื่องจักรกำลังทำงาน เพื่อไว้ใช้เปรียบเทียบและเป็นหลักฐานในการตรวจสอบการดำเนินโครงการก่อนและหลังการก่อสร้าง หลังที่ผ่านมาการตรวจสอบโครงการที่มีสภาพสิ่งแวดล้อม ลมมรสุม และปัจจัยจากธรรมชาติที่แตกต่างไปแต่ละร่องน้ำเป็นตัวกำหนด มักถูกยกเข้าใช้อ้างในสัญญา แต่หากหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้อง กำชับให้ผู้รับเหมา ดำเนินงานให้เป็นไปตามสัญญา ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงการทุจริตจากโครงการได้

โครงการนี้ มีกรมเจ้าท่า เป็นเจ้าของโครงการ โดยว่าจ้างให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ ผ่านวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ (e bidding) ด้วยงบประมาณการก่อสร้างตามสัญญา 77,698,300 บาท มีระยะเวลาก่อสร้าง 180 วัน เริ่มงานตามสัญญา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และกำลังจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่จะถึงนี้

เบื้องต้น วิศวกรผู้ควบคุมงาน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการเป็นไปด้วยความล่าช้า และอาจส่งผลให้โครงการเสร็จไม่ทันตามสัญญาที่กำหนดไว้

ขณะที่การตรวจสอบข้อมูล พบว่า ปัจจุบันมีการส่งมอบงานได้เพียง 1 งวด จาก 5 งวด ทั้งที่การขุดลอก ต้องมีวัสดุขุดลอก หรือทราย ไม่น้อยกว่า 682,000 ลูกบาศก์เมตร

ตามสัญญาลักษณะงานโครงการก่อสร้างขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเล ริมปากอ่าวปานาเระ กำหนดให้นำทรายไปปล่อยในทะเลและถมที่บริเวณชายหาดระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งผู้อำนวยการ ป.ป.ช. จังหวัดปัตตานี ยอมรับว่า ยากต่อการตรวจสอบ กรณีจึงจำเป็นต้องเก็บข้อมูลอย่างรอบครอบ โดยเฉพาะปริมาตรทราย ความลึกของร่องน้ำ ประเภทและจำนวนเครื่องจักร

ทันทีที่โครงการนี้ดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญา กรมเจ้าท่า ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาทรายที่พัดเข้าปิดปากอ่าวจากทิศทางลมน้ำ ที่สร้างผลกระทบให้กับชาวประมงพื้นบ้านกว่า 400 ชีวิต ให้เข้า-ออกปากอ่าวทะเลได้

เช่นเดียวกับการสอดส่องการดำเนินงานของโครงการ ที่ ทาง ป.ป.ช. เชื่อว่า จะสามารถช่วยให้ดำเนินโครงการเป็นไปตามระเบียบสัญญา และป้องกันการกระทำอันจะก่อให้เกิดความเสียหาย หรือ ทุจริตจากการทำโครงการได้