อดีตทหารเกณฑ์คลั่ง ใช้ค้อนทุบศีรษะ พนง.เทศบาลฯ จ.สมุทรปราการ

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ไปที่จังหวัดสมุทรปราการ มีเหตุการณ์สลด หลังหญิงคนหนึ่งถูกค้อนทุบที่ศีรษะจนเสียชีวิตและยังถูกลากศพมาหน้าคอนโด โดยสาเหตุมาจากผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่ผู้ตายมาดื่มสุราหน้าบ้าน

นี่เป็นภาพวงจรปิดที่หน้าคอนโดฯ แห่งหนึ่งในซอยศรีบุญเรืองสอง พื้นที่ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้เมื่อช่วงเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ นายขจรเดช อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ ที่เพิ่งปลดประจำการ เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้ค้อนทุบศีรษะหญิงอายุ 59 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของเทศบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จนเสียชีวิต

หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุได้ลากศพออกมาตรงลานจอดรถที่หน้าคอนโด ท่ามกลางเสียงตะโกนห้ามปรามจากผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังมีทั้งค้อนและมีดในมือ

เมื่อผู้สื่อข่าวและตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า ผู้ก่อเหตุยังคงยืนถอดเสื้อยืนมองสภาพศพด้วยสายตาเรียบเฉย และยังคงเดินวนไปมา ส่วนที่ลำตัวมีหยดเลือดของผู้เสียชีวิตกระเด็นติดลำตัวอยู่จำนวนมาก ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวทันที ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ยอมมอบตัวแต่โดยดี

จากนั้นลูกชายของผู้เสียชีวิต ได้มายังที่เกิดเหตุ ถึงกับแทบเป็นลมหลังทราบว่ามารดาของตนเองถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และบอกว่าตนเองกับแม่พักอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ แห่งนี้มานานหลายปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องหรือทะเลาะอะไรกับคนก่อเหตุ และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยากถามว่าทำไมถึงฆ่าแม่ถึงขนาดนี้

ด้านของเพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกกว่า ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะของเทศบาล วันนี้พากันมานั่งดื่มสุราที่หน้าห้องของผู้ก่อเหตุ จนทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ จนเกิดมีปากเสียงกัน จังหวะนั้นตนเองจึงกลับเข้าไปที่ห้อง มารู้อีกทีมีเสียงโวยวายด้านล่าง พอลงมาถึงรู้ว่าเพื่อนถูกฆ่าตายแล้ว

จากนั้นตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีที่ สภ.สำโรงเหนือ นำชุดตรวจสารเสพติดมาตรวจ เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ส่วนจะเข้าข่ายเป็นจิตเวชหรือไม่ ต้องรอทางครอบครัวมายืนยันอีกครั้งว่ามีประวัติการรักษาที่ไหนหรือไม่

ส่วนผู้ก่อเหตุ บอกว่า ที่ทำไปเพราะความโมโหที่ผู้ตายมานั่งกินเหล้าที่หน้าห้องแล้วเสียงดัง โดยที่ตนเองไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน ส่วนเหตุผลที่ต้องฆ่า เพราะไม่ทราบว่าคนตายเป็นใคร กลัวว่าจะมาบุกรุกที่บ้านของตนเอง

โดยตำรวจได้แจ้งข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาเอาไว้ก่อน จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนของ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อสอบปากคำโดยละเอียด ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป