ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

อดิศร เชื่อ โหวต นายกฯ เพื่อไทย ม้วนเดียวจบ

เช้านี้ที่หมอชิต - 4 สิงหาคม วันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีใกล้เข้ามาแล้ว โดย นายอดิศร เพียงเกษ ยืนยันว่า การโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทยจะเป็นการโหวตแบบม้วนเดียวจบ พร้อมฝากไปถึง "ก้าวไกล" ว่า อย่าโยน อย่าสร้างปัญหาให้เพื่อน

อดิศร เชื่อ โหวต นายกฯ เพื่อไทย ม้วนเดียวจบ
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เชื่อว่าจะโหวตนายกฯ ได้ม้วนเดียวจบ เสียงที่มาเติมให้จาก 324 เสียงเดิมจะเป็นเสียงจาก สส.เป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่อดีตพรรคร่วมรัฐบาลยังตั้งเงื่อนไข ถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมรัฐบาลจะไม่โหวตให้นั้น คงต้องมีการคุยกันเพื่อหาทางออก ยังไม่รู้จะลงเอยแบบใด แต่ไม่อยากให้แยกแยะว่า ใครเป็นฝ่ายประชาธิปไตยหรืออนุรักษ์นิยม เพราะทุกพรรคมาจากการเลือกตั้ง และมาจากรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน สามารถทำงานร่วมกันได้ 
คุณอดิศร กล่าวอีกว่า ถ้าจะตั้งรัฐบาลแบบโลกสวยก็ต้องเป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด แต่ต้องมีเสียง สว.มาช่วย จะเป็นไปได้หรือไม่ จึงอาจต้องตั้งรัฐบาลแบบโลกไม่สวย ใช้  312 เสียงเดิม บวก สส.พรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรค 2 ลุง เพราะถ้ามีพรรค 2 ลุงมา จะทำร้ายจิตใจประชาชนมากเกินไป หรือถ้าจะเอาพรรค 2 ลุงมาร่วมรัฐบาลจริง ๆ ก็ต้องเป็นมติ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องหาเหตุผลมาตอบประชาชนให้ได้ การแก้ปัญหาขณะนี้ ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะไปแก้ปัญหาให้พรรคก้าวไกล ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ละพรรคต้องไปแก้ไขปัญหาของตัวเอง พรรคก้าวไกลต้องไปตัดสินใจแก้ปัญหาตัวเอง อย่าโยนปัญหาให้คนอื่น เช่น กรณีมาตรา 112 อย่าให้เป็นปัญหาเพื่อน

ขณะที่ทางเพื่อไทย ยังไม่ชัดเจนว่าจะประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเมื่อไหร่ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจมีการปิดเกมเร็ว 4 ส.ค.นี้ ใช้สูตรมีลุงไม่มีเรา จัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้วพร้อมดัน ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน
 ผู้เปิดประเด็นเป็น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เจ้าเดิม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "มีลุง ไม่มีเรา" ปิดสวิตช์ก้าวไกล ใจความว่า อาทิตย์หน้ามีประชุม 8 พรรค เพื่อไทยต้องให้ก้าวไกลเอ่ยปากยอมเป็นฝ่ายค้านด้วยตัวเอง “มิชชั่น อิมพอสสิเบิ้ล” ที่ลวงให้ก้าวไกลหลงทาง ยอมโหวตให้เพื่อไทย และไปเป็นฝ่ายค้าน โดยให้พรรคสองลุงไปเป็นฝ่ายค้านด้วย แต่ไม่สำเร็จ แผนนี้ไม่ได้รับการตอบรับจากการเจรจาล่าสุดที่ฮ่องกง

ขณะนี้เจรจาใต้ดินได้สูตรจัดรัฐบาลแล้ว เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ และพรรคเล็กอื่น ๆ รวมเสียงได้ 315 เสียง เป็นสูตร "มีลุง ไม่มีเรา" เหมือนตอนหาเสียง ที่ก้าวไกลรณรงค์จนได้คะแนนอันดับหนึ่ง จับตาเปิดเกมเร็วหลังหยุดยาวต้นเดือน วันที่ 4 สิงหาคม รีบชิงโหวตนายกฯ  "ตัวสูง ๆ"  ส.ว. โหวตให้เต็มสภา

วิโรจน์ ไม่เชื่อข่าวลือดีด ก้าวไกล ไปฝ่ายค้าน
ทั้ง คุณอดิศร ที่เปรยว่า ก้าวไกล อย่าสร้างปัญหาให้เพื่อน คุณชูวิทย์ที่มองว่า ที่ประชุม 8 พรรคจะบีบให้ก้าวไกล เอ่ยปากไปเป็นฝ่ายค้านด้วยตัวเอง แล้วต้นตำรับ “สู้กับคนหน้าด้าน ต้องหน้าด้านกว่า กูไม่ออก” อย่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จะท่าทีอย่างไรไปดูกันหน่อย

คุณวิโรจน์ โพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาวแจงยิบ ไม่เชื่อข่าวลือจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย ผลัก ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันยังคงเชื่อใจเพื่อไทย และ 8 พรรคร่วมฯ มีสูตรอะไรบ้างที่คุณวิโรจน์ไม่เชื่อเพื่อไทยดีดพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคสองลุง แล้วรวมกับ ภูมิใจไทย  ประชาธิปัตย์ และอื่นๆเป็น 262 เสียง เพื่อให้ สว. ยอมโหวตให้ โดยอ้างว่าคือการปิดสวิทช์ สว. นั้น แท้จริงไม่ใช่การปิดสวิทช์ สว. แต่เป็นยอมจำนนต่อ สว. แล้วรวมหัวกันล้มผลการเลือกตั้ง #ปิดสวิทช์ก้าวไกล ข่าวลือนี้ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะนอกจากเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ การที่พรรคเพื่อไทย จะไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นอะไรที่อธิบายต่อวีรชนคนเสื้อแดงได้ยากมาก

สูตรต่อไป เพื่อไทยดีดพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน แล้วดึง ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ มาร่วมรัฐบาลแทน ข่าวลือนี้ยิ่งไม่เชื่อใหญ่ แม้ว่าจะทำให้รัฐบาลมีเสียงถึง 308 เสียง แต่ที่ผ่านมา แกนนำของพรรคเพื่อไทยพูดให้คำมั่นต่อสาธารณะมาโดยตลอดว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับสองลุง และต้องยอมรับว่าสองพรรคนี้เป็นพรรคที่ความโยงใยกับ คสช. และในเหตุการณ์ล้อมปราบคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 รัฐบาลที่เริ่มต้นด้วยการทรยศหักหลัง และเป็นปรปักษ์กับประชาชน ไม่มีทางที่จะเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ แถมยังจะสูญเสียฐานเสียงสนับสนุนในระยะยาว

ต่อไปสูตร ให้ภูมิใจไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีรวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ จากนั้นพรรคเพื่อไทยจึงตัดสินใจเข้าร่วม โดยอ้างว่าเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อ ข่าวลือนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะไม่ต่างจากกรณีที่เพื่อไทยเป็น

จากนั้น คุณวิโรจน์ ทิ้งท้ายว่า สรุปตนไม่ได้สนใจข่าวลืออะไรเลย ยังคงเชื่อใจและไว้ใจในภาคี 8 พรรคร่วม อย่างไม่นึกลังเล จับมือกันให้แน่นด้วยแรงหนุนจากประชาชนอย่างน้อย 26 ล้านเสียง และความชอบธรรมตามระบบรัฐสภา ยิ่งเวลาผ่านไป ยิ่งเข้าใกล้เส้นชัยเข้าไปอยู่ทุกวัน ถ้ากลมเกลียวกัน มุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ เชื่อว่ารัฐบาลแห่งความหวังของประชาชน จะจัดตั้งได้สำเร็จในไม่ช้า

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark