ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สาวร้องถูกตำรวจเรียกเงิน 1 แสนบาท ขอมีเซ็กซ์แลกไม่ดำเนินคดี

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจสระบุรีฉาวอีกครั้ง เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาร้องเรียนว่า ถูกเรียกเงิน 100,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน แถมถูกตำรวจที่ทำคดีขอมีความสัมพันธ์ชู้สาวด้วย

นางสาวหญิง (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ที่ถูกตำรวจเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือคดี ที่ถูกกล่าวหาดำเนินคดีฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นางสาวหญิง (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 ในจังหวัดสระบุรี ขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้านช่วงกลางคืน จังหวะรถยนต์ที่ขับมาเกิดเสีย และโทรศัพท์มือถือแบตก็หมด ซึ่งมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือโดยช่วยเข็นรถยนต์ให้ แต่กลับเข็นเข้าไปในที่เปลี่ยว และอ้างว่าจะพาไปเอาแกลอนเพื่อมาไปซื้อน้ำมันมาเติมรถที่บ้าน และได้ขอยืมสายชาร์จโทรศัพท์ ชายคนดังกล่าวบอกว่าให้เดินไปหยิบสายชาร์จในห้อง จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เข้ามาล็อกห้องและพยายามลวนลาม ตนจึงได้ออกอุบายขอเข้าห้องน้ำ และหนีออกมาโดยปีนรั้วไปยังบ้านข้าง ๆ และพยายามให้เจ้าของบ้านช่วยเหลือ

พอมาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเสาไห้ เพื่อดำเนินคดีกระทำอนาจาร กับผู้ชายเจ้าของบ้านที่พยายามลวนลามตน แต่กลับถูกคุมตัวไว้เนื่องจากเจ้าของบ้านที่ตนปีนหนีได้แจ้งความว่าตนเองบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ซึ่งต่อมาเมื่อเจ้าของบ้านที่แจ้งความรู้เรื่องราวทั้งหมด จึงได้ถอนแจ้งความไป แต่ตำรวจไม่ให้ถอนแจ้งความ โดยอ้างว่าเป็นคดีอาญาไม่สามารถถอนแจ้งความได้

จากนั้นมีตำรวจยศ "พันตำรวจโท" ได้เรียกรับเงิน 100,000 บาท พร้อมอ้างว่าจะช่วยเหลือ ไม่ฟ้องร้องคดี ไม่ต้องถึงชั้นอัยการ แต่ตนหาเงินให้ไม่ได้ จึงต่อรองจนเหลือ 10,000 บาท และยังมีการพูดคุยลักษณะขอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว เพื่อแลกกับการทำคดีที่ถูกกระทำอนาจาร โดยมีการต่อรองขอเงินเพิ่ม อ้างว่าตัวเองไม่รับสักบาท แถมจะควักช่วยด้วย

ซึ่งยังมีเสียงบางช่วงบางตอนที่หญิงสาวถูกต่อรองเพื่อขอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวด้วย แม้จะพยายามบ่ายเบี่ยงบอกว่าสารวัตรคนดังกล่าวมีครอบครัวอยู่แล้ว ก็ยังมีการตอบว่า "ถ้าไม่พูดจะรู้ได้อย่างไร" พร้อมกับพยายามชักจูงไปม่านรูด

และหลังจากนั้น เมื่อหญิงสาวรายนี้เดินทางร้องเรียน ตำรวจรายนี้ก็ยังโทรมาทวงเงินอีก ซึ่งเนื้อหาที่พูดก็ชัดเจนว่า เรียกรับเงินโดยอ้างว่าจะแลกกับกับการไม่รับฟ้องคดี

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายแล้ว ได้สอบถามไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ก็พบว่า ตำรวจนายดังกล่าวเคยมีประวัติในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์มาแล้ว 2 ครั้ง และถือว่าเป็นการกระทำที่ซ้ำเติมเหยื่อ จึงต้องพามาร้องขอความเป็นธรรม ให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหาย ว่า เข้าข่ายความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 หรือไม่ และหากว่ามีหลักฐานดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการด้วย ซึ่งหลังเข้าให้ข้อมูลต่อ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งให้นำผู้เสียหายเดินทางไปพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เพื่อแจ้งความกับตำรวจรายดังกล่าว และเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด หากพบกระทำความผิดจริงจะต้องออกจากราชการ

ล่าสุด ช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก พลตำรวจตรี วิชิต บุญชินวุฒิกุล ได้เซ็นคำสั่งเบื้องต้นให้สารวัตรคนดังกล่าวออกจากราชการแล้ว โดยได้รับคำสั่งจาก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดูแลคดีนี้อย่างละเอียดรอบครอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark