ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

แจ้งข้อหาเจ้าของโกดังประทัด ดอกไม้เพลิงระเบิด ตลาดมูโนะ จ.สงขลา

ข่าวภาคค่ำ - "เจ๊หลิน-เสี่ยไสว" เจ้าของโกดังประทัดและดอกไม้เพลิงระเบิด ตัดสินใจเดินข้ามด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ยอมมอบตัวกับ ตำรวจคนเข้าเมือง ก่อนนำตัวไปสอบสวน ล่าสุดถูกควบคุมตัวส่งจังหวัดนราธิวาสแล้ว

นายไสว และ นางสาวปิยะนุช เจ้าของโกดังประทัด และดอกไม้เพลิง ที่เกิดเหตุระเบิดกลางตลาดชุมชนตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตัดสินใจเดินข้ามด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ระบบตรวจสอบคัดกรอง บุคคลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้แจ้งเตือนว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัว ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ใน 4 ข้อหา ได้แก่ ประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นถึงแก่ความตาย , ร่วมกันทำ - สั่ง - นำเข้า หรือ ค้าดอกไม้เพลิง โดยไม่รับอนุญาต , ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ ร่วมกันก่อสร้าง - ดัดแปลง หรือ เคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีญาติและทนายความไปรอรับตัวทั้ง 2 คน ด้วย

ก่อนที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ควบคุมตัวไปยัง สภ.สะเดา เพื่อทำบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งข้อหา ซึ่งทั้ง 2 คน มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยมีตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมสอบสวนด้วย และใช้เวลาสอบสวนเบื้องต้นนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะควบคุมตัวไปยังจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเบื้องต้นมีการเตรียมสถานที่รับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่สภ.เมืองนราธิวาส แทน สภ.มูโนะ เนื่องจากเกรงเรื่องความปลอดภัย

สำหรับ นายไสว และ นางสาวปิยะนุช ได้นำครอบครัวไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ช่วงเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม  ทางด่านพรมแดนสะเดา โดยจากข้อมูลพบว่า ไปท่องเที่ยวที่ อีโปะฮ์ รัฐเประ ของประเทศมาเลเซีย ก่อนที่โกดังจะเกิดเหตุระเบิด ช่วงเวลา 15.00 น. ในวันดังกล่าว จากนั้นก็ติดต่อประสานขอเข้ามอบตัวแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ผิดนัด กระทั่งพนักงานสอบสวน ขอศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับทั้ง 2 คน

ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้สืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด เพราะเชื่อมโยง 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงกลาโหม เนื่องจากเหตุนี้จะไม่เกิดขึ้น หากเจ้าหน้าที่ไม่ละเลยการตรวจสอบโกดัง รวมทั้งให้ตรวจสอบการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน โดยเฉพาะตำรวจในพื้นที่ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เคยบอกกับชาวบ้านในตำบลมูโนะว่า จ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะตำรวจภูธร ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ทั้งรายวันเฉลี่ยวันละ 1,000-3,000 บาท และรายเดือนเฉลี่ยเดือนละ 10,000-30,000 บาท

ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตั้งคณะทำงาน พนักงานสอบสวน และขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายไสว และ นางสาวปิยะนุช รวมทั้งดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ บริษัทที่นำประทัดและดอกไม้เพลิงมาส่งให้โกดังของทั้ง 2 คน ว่ามีใบอนุญาตในการเคลื่อนย้ายหรือไม่ นอกจากนี้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและเตรียมแจ้งความกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลหน่วยงานด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark