ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

"ชูวิทย์" แฉต่อ โจรใส่สูทปล้น วางแผนภาษีหรือโกงภาษี? อย่าตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย


"ชูวิทย์" แฉต่อ โจรใส่สูทปล้น วางแผนภาษีหรือโกงภาษี? อย่าตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย เหมาะเป็นนายกฯ หรือไม่ ปชช.ตัดสินได้เอง

อุณหภูมิทางการเมืองยังร้อนระอุต่อเนื่อง หลังจาก นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนายอีกคนของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งคำถามไปถึง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉเพื่อชาติ ใน EP.1 ว่า จงใจปกปิดข้อมูล การได้มาต่างวันกันของเจ้าของที่ดิน เพื่อเปิดช่องตี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่

พร้อมเปิดข้อกฎหมายการขายที่ดินกรณีมีผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมกันหลายคนว่า ต้องดูว่าเจ้าของที่ดินแต่ละคนได้มาวันเดียวกันหรือไม่ ถ้าได้มาวันเดียวกัน ไม่ว่าจะขายในวันเดียวกันหรือไม่ ก็ต้องเสียภาษีในนามห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน หรือ ในนามคณะบุคคล

แต่ถ้าได้ที่ดินมาต่างวันกันไม่ว่าจะขายในวันเดียวกันหรือไม่ ก็จะเสียภาษีแบบต่างคนต่างเสีย จึงเห็นว่านายชูวิทย์ ให้ข้อมูลต่อสาธารณชนไม่หมด จงใจปกปิดข้อมูลเรื่องการได้ที่ดินต่างวันของเจ้าของที่ดิน เพื่อโจมตีนายเศรษฐา พร้อมกับทิ้งท้ายว่ากรณีเจ้าของที่ดิน 12 คน ที่ได้ที่ดินต่างวันกัน จะไปกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษีไม่ได้

ทางด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  ก็ได้งัดข้อมูลขึ้นมาโต้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในช่วงค่ำวานนี้ (6 ส.ค.66) ทันที เผยจะวางแผนภาษี หรือ “โกงภาษี” มันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ด้วยคำว่า “จริยธรรม” เรื่องพวกนี้สอนกันไม่ได้เสียด้วย แม้มีกฎหมาย ระเบียบควมคุม แต่คนมันมีเจตนาจะโกง “แบ่งหน้าที่กันทำ” หลีกเลี่ยงเงินที่สมควรจ่ายให้รัฐถึง 500 ล้านบาท ไม่ยอมจ่ายแม้แต่บาทเดียว

นายชูวิทย์ ระบุว่า กรมสรรพากรบอกตามแนววินิจฉัยที่ กค 0811/02985 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2542 หากคณะบุคคล “ได้ที่ดินมาพร้อมกัน ขายในเวลาพร้อมกัน ให้ผู้ซื้อบริษัทเดียวกัน” ต้องเสียภาษีในนามห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ก็ไปอ้างว่า “ได้มาไม่พร้อมกัน” ทั้งที่แต่ละคน ได้ที่ดินมาจากการแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้น หลังจดทะเบียนเลิกบริษัทฯ วันเดียวกันคือ 26 พฤศจิกายน 2561 แต่ “แกล้ง” ทยอยกันมาโอนรับกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินทีละคนติดต่อกันทุกวัน พอตอนขายก็ “แกล้ง” มาโอนคนละวัน เพื่อให้ดูเหมือนว่า ต่างคนต่างได้มา และต่างคนต่างขายไป ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ทั้งที่เป็นที่ดินแปลงเดียวกันไม่ได้แบ่งแยกโฉนด จะได้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน หรือคณะบุคคล

คนเป็น “ทนายความ” อย่างคุณนรวิชญ์ แถมยังเป็น “ผู้สมัคร สส.” ด้วย หากคิดจะเติบโตรับใช้ชาติบ้านเมือง ควรที่จะบอกคนทำแบบนี้ “มันไม่เนียน” เป็นการตีความกฎหมายแบบ “ศรีธนญชัย” กฎหมายต้องดูที่ “เจตนา” ยิ่งคนเจตนาหลบเลี่ยงภาษี ยิ่งชัดว่าไม่บริสุทธิ์

ผู้ใช้กฎหมายทุกท่าน จะต้องแบ่งแยกให้ได้ในเส้นบางๆ ที่มีผลต่างกันมหาศาลว่า มันไม่ใช่การ “วางแผนภาษี” คนที่เป็น “นายทุน” มีเจตนาหลบเลี่ยงกฎหมาย ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปถึง 500 กว่าล้าน แบบนี้น่าไว้วางใจเหมาะสมให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ของประเทศไทยหรือไม่ ไม่ใช่ไป “หนีเสือปะจรเข้” ประชาชนคนไทยตัดสินได้เอง

ล่าสุดวันนี้ (7 ส.ค.66) ทางด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเคตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ก็ได้ส่งทนายความยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท โดยทนายความของนายเศรษฐา เปิดเผยว่า ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ยืนยันว่าการใช้สิทธิ์ตรวจสอบนายเศรษฐา สามารถทำได้ แต่การใช้สิทธิเสรีภาพต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และเห็นว่านายชูวิทย์ มีเจตนาใส่ความให้เกิดความเสียหายอย่างชัดเจน


BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก FB : ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, Ch7HD

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark