ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

แค้นฝังหุ่น ปมพิพาททางเข้า-ออก บุกยิงญาติเสียชีวิต และบาดเจ็บ 2 คน จ.นนทบุรี

ข่าวอาชญากรรม 8 สิงหาคม 2566 - สนามข่าว 7 สี - อีกเหตุนองเลือดที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกรณีพิพาทเรื่องทางเข้าออกที่ดิน ระหว่าง 2 ครอบครัวเป็นญาติกันระหองระแหงสะสมมานาน กลายเป็นความแค้นฝังหุ่น ทำให้ชายอายุ 83 ปี ถือปืนไปยิงอีกฝ่ายยกครอบครัวเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 2 คน

ช่วง 17.00 น. เมื่อวานนี้ตำรวจ สภ.บางกรวย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในซอยอัจฉริยะประสิทธิ์ ซึ่งซอยนี้สามารถทะลุไปยังวัดหูช้างได้ ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เมื่อมาตรวจสอบพบมีผู้เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อนางวิไล อายุ 45 ปี ถูกปืนยิงกระสุนเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นอกจากนี้มีผู้ถูกยิงบาดเจ็บอีก 2 คน ก็คือนายเอกรินทร์ อายุ 44 ปี ถูกยิงที่ไหล่ซ้าย 1 นัด และนายณรงค์ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายเอกรินทร์ ถูกปืนยิงหัวไหล่ด้านซ้ายและมือได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บทั้งสองคนส่งรักษาที่โรงพยาบาล

จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายหวาน อายุ 83 ปี ไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นญาติกับครอบครัวที่ถูกยิง โดยหลังจากก่อเหตุแล้ว นายหวาน เดินถือปืนกลับเข้าไปในบ้านของตัวเองที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่ยอมออกมา กระทั่งกำนันตำบลมหาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้ก่อเหตุรู้จัก มาเจรจาเกลี้ยกล่อมได้สักพัก ผู้ก่อเหตุก็ใจอ่อนยอมออกจากบ้านมา พร้อมกับนำปืนขนาดจุด 38 ที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้ตำรวจ เบื้องต้นสอบสวนทราบว่าเมื่อวานนี้ฝ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้ว่าจ้างรถบรรทุกดินมาถมที่ดินของตัวเอง ซึ่งอยู่ด้านหลังบ้านของผู้ก่อเหตุ แต่ทำให้รั้วบ้านของผู้ก่อเหตุเกิดรอยร้าว นายหวาน จึงออกจากบ้านมาโวยวายแล้วเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนนายหวานเข้าบ้านไปหยิบปืนออกมายิงทั้ง 3 คน

นายสุเทพ ต่ายจันทร์ กำนันตำบลมหาสวัสดิ์ได้ให้ข้อมูลว่า นายหวาน ผู้ก่อเหตุ กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นเครือญาติกัน แต่มีปัญหาเรื่องที่ดินแปลงติดกันมานานแล้ว รวมถึงขัดแย้งกันเรื่องทางเข้าออกด้วย กระทั่งคราวนี้มาเกิดเหตุรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีทั้งพยานและกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุ บันทึกภาพจังหวะที่ผู้ก่อเหตุ ถือปืนพกสั้นเดินไปหาฝ่ายผู้บาดเจ็บและพ่อ แล้วเกิดการโต้เถียงกันบานปลาย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะถึงขั้นยิงกัน

เมื่อคืนนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพัก เพื่อหามูลเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริง ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark