ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

เปิดปมฆ่ายกครัว 5 ศพ แค้นเมียไม่คืนดี

เช้านี้ที่หมอชิต - เหตุฆาตกรรมยกครัว 5 ศพกลางกรุงเทพมหานคร ตำรวจสอบปากคำอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ เผยอดีตสามีเคยขู่ฆ่า ถ้าไม่กลับมาอยู่ด้วยกัน

เพื่อนและญาติของนายสมชาย ผู้ก่อเหตุ นิมนต์พระจากวัดหลักสี่ เชิญวิญญาณของผู้ก่อเหตุที่บริเวณศาลาหน้าคอนโดฯ จุดที่นายสมชายใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ยังพบหมวกที่ผู้ก่อเหตุใส่เป็นครั้งสุดท้ายตกอยู่ที่นี่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยก่อนที่นายสมชาย อายุ 54 ปี ซึ่งมีอาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้าง จะมาจบชีวิตตัวเองที่ศาลานี้ก่อนหน้านั้นก็ได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงนางโสภา อายุ 59 ปี แม่ยาย ที่ขายลอตเตอรี่อยู่ในตลาดแห่งหนึ่ง ในซอยแจ้งวัฒนะ 6 กรุงเทพฯ บาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิต จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่คอนโดฯ ขึ้นไปจ่อยิงเด็กชายวัย 7 ขวบ และเด็กชายวัย 9 ขวบ ลูกเลี้ยง และยิงพี่สาวของแม่ยายอายุ 60 ปี เสียชีวิต ก่อนจ่อยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด เหตุเกิดค่ำวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา

สำหรับศพผู้เสียชีวิตทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานนำทั้ง 4 ศพ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม และได้ประสานกับทาง ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ว่าจะพานางสาวชมพู่ ไปให้การเพิ่มเติมภายหลังจัดการพิธีศพเสร็จแล้ว

ความคืบหน้าของคดี เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เรียก นางสาวชมพู่ อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำ และสรุปสาเหตุเบื้องต้นว่ามาจากปัญหาหนี้สิน ชู้สาว และความหึงหวง โดยที่ผ่านมาทั้งคู่มีปัญหากันมาตลอด
ด้าน นางสาวชมพู่ หลังเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ได้เดินทางพร้อมด้วยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ไปที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อรับทั้ง 4 ศพไปบำเพ็ญกุศล

โดย นางสาวชมพู่ ได้ติดต่อมูลนิธิปวีณาให้เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจและค่าทำศพทั้ง 4 ศพ เพราะไม่มีเงินเพียงพอที่จะจัดงานศพ ซึ่งนางปวีณา เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิฯ จะให้ความช่วยเหลือทั้งทางคดีและจัดการงานศพให้จนถึงที่สุด
นางสาวชมพู่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คบหาดูใจกับนายสมชาย มาได้มากกว่า 6 ปีแล้ว ที่ผ่านมาถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด สุดท้ายจึงตัดสินใจหย่ากัน แต่ฝ่ายชายยังตามราวี หวังขอคืนดี ตนก็ไม่อยากกลับไป ทำให้ถูกข่มขู่มาตลอด เคยถูกนายสมชายเอาปืนจ่อหัว ข่มขู่ว่าจะทำให้เจ็บช้ำใจให้มากที่สุด หากไม่ยอมกลับไปคืนดี ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุกับครอบครัวของตนเช่นนี้

ส่วนประเด็นที่มีข้อครหาเรื่องคอนโดฯ ยืนยันว่า เป็นน้ำพักน้ำแรงที่ทั้งตนและนายสมชายร่วมกันหาเงินมาซื้อห้อง ไม่ใช่นายสมชายซื้อแค่ฝ่ายเดียว ซึ่งทั้งคู่ตกลงกันที่จะให้เป็นชื่อของนายสมชายเป็นเจ้าของ ส่วนเหตุที่ตนกลับไปคอนโดฯ นั้น เพื่อเข้าไปเอากุญแจรถและกระเป๋าของลูกชาย เท่านั้น ไม่ได้นำทรัพย์สินอื่นใดออกมาอีก

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark