สาวประเภทสองรุมทำร้ายสาวเจ็บสาหัส จ.พิษณุโลก

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่ จังหวัดพิษณุโลก แก๊งสาวประเภทสอง รุมทำร้ายสาววัย 21 ปี บาดเจ็บสาหัส สาเหตุให้ยืมโน้ตบุ๊กไปจำนำ แล้วปล่อยให้หลุดจำนำ แม่เห็นสภาพลูกสาวถูกซ้อมแทบใจสลาย ทนไม่ได้พาลูกเข้าแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

เมื่อวานนี้ เพจพิษณุโลกบ้านเรา มีผู้เข้าไปนำเสนอภาพและเรื่องราวที่หญิงสาวคนหนึ่งที่ใบหน้ามีสภาพบวมปูด โดยระบุเรื่องราวว่า ไม่น่าเชื่อว่าเมืองพระพุทธชินราชจะทำกันรุนแรงได้ถึงขนาดนี้ เธอถูกเพื่อนลวงให้ออกไป พบกับกลุ่มสาวประเภทสองและกลุ่มผู้ชายรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ นางสาววิภวานี แม่ของนางสาวส้ม (นามสมมติ) อายุ 21 ปี หญิงสาวที่ถูกระบุว่าถูกกลุ่มสาวประเภทสองทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก

นางสาวส้ม ระบุว่า เธอถูกทำร้ายเมื่อช่วงเวลา 01.00-02.00 น. วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่เปลี่ยวใน เขตตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ทำให้ใบหน้าบวมปูด ดวงตาข้างขวาปิดลืมไม่ขึ้น นอกจากนี้ ทั่วทั้งตัวยังบอบช้ำจากการถูกหมัดและลำแข้งประเคนใส่ไม่ยั้ง

นางสาวส้ม เปิดเผยว่า คู่กรณีเป็นรุ่นพี่ในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองพิษณุโลก เคยทำร้ายร่างกายเธอมาแล้ว 3 ครั้ง สมัยยังเรียนอยู่ชั้น ปวส. 2 แจ้งความดำเนินคดีมาแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า แต่มาครั้งนี้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ปมเหตุคือก่อนหน้านี้ตนเองไม่มีเงินจ่ายค่าหอพัก รุ่นพี่คนนี้บอกให้นำโน้ตบุ๊กของเขาไปจำนำ ตนคิดว่ารุ่นพี่หวังดี เอาไปจำนำได้เงินมา 4,000 บาท ไปจ่ายค่าหอพัก แต่ต่อมาหลุดจำนำเพราะไม่ได้จ่ายดอก จึงถูกรุ่นพี่คนนี้ต่อว่า ตนยอมรับผิดบอกว่าจะทยอยจ่ายคืนให้ แต่คืนวันที่ 6 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 7 สิงหาคม มีเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่า ให้ออกมาพบในพื้นที่ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง ตนไปถึงก็พบรุ่นพี่แก๊งสาวประเภทสอง และเพื่อนทั้งชายและหญิงจำนวนมากรุมทำร้าย

ด้าน นางสาววิภวาณี มารดาของผู้ได้รับบาดเจ็บ ระบุว่า ไม่คิดว่าจะมีการทำร้ายกันรุนแรงถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะเพื่อนที่โทรศัพท์มาชวนให้ลูกสาวตนออกไปถูกทำร้าย ตนแจ้งความขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พนักงานสอบสวนรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมกับรอผลแพทย์ตรวจบาดแผลว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บมากน้อยขนาดไหน จากนั้นก็จะสามารถตั้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ จากนั้นก็จะออกหมายเรียกคู่กรณี หรือผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพจาก : Facebook พิษณุโลกบ้านเรา