ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

จับตาสัปดาห์หน้า เพื่อไทย กวาดเสียงร่วมรัฐบาลเพิ่ม

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ยังมีหลายประเด็นต้องตามต่อกับสถานการณ์การเมือง ที่ผ่านการเลือกตั้งมา 91 วัน แล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้นายกรัฐมนตรีเมื่อไร เพราะมีหลายปัจจัยมาเป็นตัวแปร แม้พรรคเพื่อไทยประกาศตัวเป็นแกนนำรวบรวมเสียงอย่างเป็นทางการแล้ว 238 เสียง ก็ยังไม่เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร

จับตาสัปดาห์หน้า เพื่อไทยกวาดเสียงร่วมรัฐบาลเพิ่ม
ตัวเลขนี้ เป็นการประกาศจับมือและแถลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ 9 พรรค โดยพรรคสุดท้ายที่ได้คล้องมือกับเพื่อไทย คือ พรรคชาติไทยพัฒนา รวมมีเสียงตั้งรัฐบาลแล้ว 238 เสียง แต่เสียงที่มีก็ยังไม่พอ ขาดอยู่อีก 12 เสียง จึงจะถึงกึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ในสภาฯ และยังต้องหาให้เกินไปอย่างน้อย 20 เสียง เพื่อให้เกิดความอุ่นใจว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

หันซ้าย หันขวา ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติ แต่ทั้ง 3 พรรคนี้ ในการซาวด์เสียงระหว่างการประชุม สส.พรรค เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา สส.ส่วนใหญ่ ไม่ให้ผ่านสักพรรคเดียว เพราะเคยอยู่กันคนละขั้ว สู้กันชนิดที่ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ อยู่ ๆ จะให้มารวมกัน ก็ตอบกลุ่มผู้สนับสนุนลำบาก

แต่จากท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นมือมาหาเพื่อไทยก่อน ยก 40 เสียงให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แบบยังไม่ต้องมีพันธะสัญญาว่าจะตั้งรัฐบาลร่วมกัน ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยมีเสียง สส.ตุนในวันโหวตเลือกนายกฯ แล้ว 278 เสียง

รทสช.ประชุม 15 ส.ค.กำหนดท่าทีโหวตนายกฯ
ที่ต้องจับตาต่อ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่วันนี้ไม่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว จะมีการประชุมพรรคในวันอังคารที่ 15 สิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดท่าทีในการโหวตเลือกนายกฯ ว่า จะเทคะแนนให้ก่อน หรือต้องมีมัดจำชัด ๆ ว่าได้ร่วมรัฐบาลกันแน่ ๆ จึงค่อยเทคะแนนให้ โดย คุณธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคฯ ประกาศว่า ถ้าจะไปต้องไปทั้งพรรค

คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ได้แน่ ๆ ตอนนี้ จึงยังหยุดอยู่ที่ 278 เสียง เกินกึ่งหนึ่งมา 28 เสียง เพียงพอที่จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และยังมีโอกาสที่จะได้เสียงจาก สว. เพิ่มเติมด้วย ซึ่งตัวเลขที่ได้ในขณะนี้ หากไม่มีเสียง สส.จากพรรคอื่น มาเติมอีกเลย เพื่อไทยต้องการเสียงจาก สว. อีกประมาณ 96 เสียง เรียกว่าสบาย ๆ เพราะมีการประเมินว่า เสียง สว.สายลุงป้อม มีมากกว่า 100 คน ขณะเดียวกันมีการส่งสัญญาณจากฝั่ง สว. ว่า เมื่อถึงวันโหวตเลือกนายกฯ คุณเศรษฐา น่าจะผ่านฉลุยแบบม้วนเดียวจบ

โดยมีการโพสต์เฟซบุ๊กจาก สว.วันชัย สอนศิริ ระบุว่า ขบวนเสียงส่วนใหญ่ ใคร ๆ ก็พร้อมจะไปด้วย สว.ส่วนใหญ่ พร้อมจะไปกับขบวนนี้ ทุกคนพร้อมยิ่งกว่าพร้อม เต็มที่ เต็มขบวน

จนถึงขณะนี้ ปลายทางรัฐบาลเพื่อไทยจะรวมเสียงจากพรรคไหนมาเพิ่มอีก ยังไม่มีการประกาศชัดเจน แต่คาดการณ์กันว่าคงหนีไม่พ้นมีพรรค 2 ลุง คือ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ 

ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ จะเป็นรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง ที่มีเสถียรภาพไม่น้อยหน้าไปกว่า 8 พรรค 312 เสียง ที่เคยประกาศจับมือกัน

เพียงแต่มีราคาที่พรรคเพื่อไทยต้องจ่ายทางการเมือง ชนิดที่นักวิชาการมองว่า อาจได้ไม่คุ้มเสีย และคนที่ออกมาโจมตีดัง ๆ คือ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ล่าสุดโพสต์ตั้งฉายาเปรียบการเมืองยุคนี้เป็นดั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กล้าเอาอุดมการณ์ไปเร่จายเพื่อแลกกับการกลับบ้านของคนเพียงคนเดียว จั่วหัวเรื่องไว้แบบดุดันไม่เกรงใจใครว่า "รัฐบาลมิจฉาชีพ"

และโพสต์ว่า หลอกลวงประชาชน เตรียมผลักดันนายกฯ นอมินี ซึ่งในวันอังคารที่ 15 สิงหาคม เขาจะเปิดเผยพฤติกรรมของบุคคลที่กำลังขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เพราะฉ้อฉล ปล้นเงินผู้ถือหุ้นอย่างชัดเจน จึงถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้แฉเพื่อชาติ "กระชากหน้ากากคนโกง เปิดโปงคนชั่ว ไม่เกรงกลัวอิทธิพล"

ขณะเดียวกัน ยังมีคำแนะนำจาก อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กแนะ 5 วิธี พา คุณทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านที่ถูกต้อง โดยสรุปก็คือ ไม่ควรกลับมาด้วยวิธีที่กำลังทำอยู่ คือ การกลับมารับโทษและขอรับพระราชทานอภัยโทษ เพราะไม่เป็นผลดีต่อระบบการเมืองไทยด้วย แต่ควรใช้วิธีลบล้างผลพวงจากรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ซึ่งคุณทักษิณจะไม่ต้องติดคุกเลย พรรคเพื่อไทยก็ไม่ต้องเสียความนิยมจากมวลชน 8 พรรคขั้วเดิม ก็ยังเดินหน้าต่อได้

ก้าวไกล ยกทัพหลวง ลุยหาเสียงเขต 3 จ.ระยอง
เริ่มคึกคักแล้ว สำหรับสนามเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นสนามแห่งศักดิ์ศรีที่พรรคก้าวไกลอยากรักษาที่นั่งไว้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอล้างตาทวงเก้าอี้คืน

10 กันยายนนี้ ชาวระยองเขต 3 จะมีโอกาสได้เลือก สส. กันอีกครั้ง หลังจากที่ นายนครชัย ขุนณรงค์ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ลาออกจากตำแหน่ง สส. เพราะถูกเปิดโปงว่าเคยติดคุกในคดีลักทรัพย์ ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งพรรคก้าวไกลกวาด สส.ในจังหวัดระยอง ยกจังหวัดไปแบบหักปากกาเซียน

คราวนี้ พรรคก้าวไกลประกาศรักษาที่นั่งเดิม ส่งทัพใหญ่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัย แนะนำ นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ซึ่งเดิมเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 52 เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครในสนามนี้ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก 

ปชป.ส่ง หมอบัญญัติ ทวงคืนเก้าอี้ สส.เขต 3 จ.ระยอง
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ส่งอดีต สส.หลายสมัย อย่าง นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ ที่พลาดท่าพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา คราวนี้ขอล้างตาอีกรอบ โดย นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลพื้นที่ภาคกลาง ก็หมายมั่นปั้นมือชิงพื้นที่นี้คืนมาเป็นของประชาธิปัตย์ ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จึงน่าจับตาว่าใครจะได้รับความไว้วางใจจากชาวระยองเขต 3

กกต.จ่อเอาผิด ม.151 นครชัย รู้อยู่แล้วไม่มีสิทธิลงสมัคร 
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีผลพวงทางคดีตามมา จากกรณีของ นายนครชัย ด้วย โดย กกต. อยู่ระหว่างพิจารณาตั้งคณะกรรมการเพื่อเอาผิดอาญานายนครชัย ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครแต่ยังลงสมัครตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. รวมถึงพิจารณาเรื่องค่าชดใช้ในการจัดการเลือกตั้งใหม่ด้วย โดยอาจใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ว่าด้วยการละเมิดมาบังคับให้นายนครชัย ต้องจ่ายค่าเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark