มติเอกฉันท์ ก้าวไกล ไม่โหวต เพื่อไทย ตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่ประชุม สส.ก้าวไกล มีมติเอกฉันท์ โหวตไม่เห็นชอบ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย หากมีพรรค 2 ลุง เพราะขัดเจตนารมณ์ของประชาชนที่ลงมติผ่านการเลือกตั้ง มีการแถลงเรื่องนี้จาก นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

มติเอกฉันท์ ก้าวไกล ไม่โหวต เพื่อไทย ตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม สส. ระบุว่า ที่ประชุมมีมติตรงกัน คือ ไม่โหวตให้ เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลในลักษณะที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ

1. เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่ได้แสดงออกในการเลือกตั้ง

2. การที่จะให้ สส. ของพรรคก้าวไกล โหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย ไม่ใช่การปิดสวิตช์ สว. แต่เป็นการเดินเกมตามความต้องการของ สว. ที่พยายามจะบิดเบือนผลการเลือกตั้ง ซึ่งชัดเจนแล้วว่า สว. จำนวนมาก และพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต้องการที่จะปิดสวิตช์พรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้ง

3. ทางพรรคเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ว เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่เกรงกลัวผู้มีอำนาจมากกว่าประชาชน จะไม่สามารถผลักดันนโยบายให้เกิดประโยชน์ตามที่ประชาชนอยากเห็นได้

ส่วนในวันโหวตนายกฯ ทางพรรคก้าวไกล จะออกเสียง "ไม่เห็นชอบ" หรือ "งดออกเสียง" ตอนนี้อยู่ระหว่างคุยกัน แต่ขอยืนยันว่า ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลขั้วใหม่มีพรรคสองลุงเข้ามาร่วม จะเป็นการโหวต "ไม่เห็นชอบ" แม้ก่อนหน้านี้ สส. จากพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะโหวตให้ นายพิธา แต่นั่นเป็นความชอบธรรมที่ทั้ง 2 พรรค จับมือจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน ส่วนตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม เพราะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่บิดเบือนเจตจำนงของพี่น้องประชาชน

พิธา นำผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม จ.ระยอง
ความเคลื่อนไหวของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ไประยอง เพื่อนำ นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือ โย ระยอง สมาชิกพรรคก้าวไกล ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 3 ระยอง แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งก็มีประชาชนมาให้กำลังใจเช่นเคย แต่คราวนี้พิเศษหน่อย ดูกันให้ดี เพราะไม่แน่ 16 สิงหาคมนี้ นายพิธา อาจให้โชคอีกหรือเปล่า

โดยระหว่างกำลังขึ้นรถแห่มีผู้มอบสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ให้กับคุณพิธา เป็นเลขตามอายุ และตรงกับเลขท้ายสองตัวของทะเบียนรถตู้ส่วนตัวของ คุณพิธา เป็นเลขอะไร เชื่อว่าผู้รักในการเสี่ยงโชคในวันนี้คงค้นหาและลุ้นไปกับคุณพิธาได้ไม่ยาก

คุณพิธา ยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีหุ้นสื่อ ไอทีวี ที่คณะกรรมการไต่สวน กกต. เสนอให้ยกคำร้อง เนื่องจากไม่มีรายได้และไม่มีการทำสื่อว่า ตนยังยืนยันคำเดิมว่า มีขบวนการที่จะฟื้นคืนชีพ ไอทีวี จึงอยากทวงความยุติธรรมโดยเร็ว เพราะอยากกลับไปทำงานและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดย กรณีไอทีวี ช่วงนี้มีความคืบหน้าออกมา 2 เรื่อง คือ การยกคำร้องดังกล่าว เข้าใจว่า กกต. มีมติขอดูสำนวนของกรรมการชุดนี้ด้วย จึงเป็นคำถามต่อมาว่า ที่บอกว่ามีมูลส่งศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ใช้ข้อมูลตรงไหน อีกเรื่องหนึ่ง คือ มีการเปิดงบไตรมาสที่ 2/2566 ของไอทีวี ระบุว่า ยุติกิจการ และไม่มีรายได้เป็นสื่อ ไม่มีสัมปทาน ดังนั้นตรงนี้หากประวิงเวลาออกไป ตนก็จะเสียโอกาส ประชาชนก็จะเสียโอกาสที่จะให้ตนทำงาน
 
อีกหนึ่งประเด็นที่กำลังเป็นข้อถกเถียงอย่างมาก คือ เรื่องการปรับหลักเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่โดย กระทรวงมหาดไทย คุณพิธา ได้ฝากตั้งกระทู้ถามผ่านสื่อไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วย