โรม ยืนยัน ก้าวไกล เสนออีกรอบ ขอสภาฯ ทบทวนมติห้ามโหวตนายกฯ ซ้ำ

เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้าคดีต่าง ๆ ของพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีความเคลื่อนไหวใน 2 เรื่อง เรื่องแรก มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่รับคำร้องปมเสนอชื่อ "พิธา" โหวตนายกฯ รอบ 2 ได้หรือไม่ เหตุผู้ร้องเรียนไม่ใช่บุคคล ซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง พูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้ร้องต้องเป็นคุณพิธาเท่านั้น อีกกรณีหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติขยายระยะเวลา กรณีก้าวไกลหาเสียงโดยใช้มาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่ ไปอีก 30 วัน 

โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็มีความเห็นต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องเรื่องการเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นผู้ถูกละเมิดสิทธิ ซึ่งหมายถึงตัว นายพิธา เท่านั้นที่สามารถยื่นคำร้องได้ จึงมีคำถามไปที่ คุณพิธา ว่าจะยื่นหรือไม่

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีสภาโหวตเลือกนายกฯ โดยระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พิจารณาในเนื้อหาสาระข้อเท็จจริง แต่ยกเรื่องเทคนิคกระบวนการมาเป็นเหตุผล พรรคก้าวไกลยืนยันโดยตลอดว่ากรณีเช่นนี้ สภาควรแก้ไขปัญหากันเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้องค์กรภายนอกอย่างศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา อะไรก็ตามที่ทำไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดไป สภามีอำนาจแก้ไขปรับปรุง จึงเป็นที่มาที่ทำให้พรรคก้าวไกลเสนอญัตติเพื่อให้สภาทบทวน ว่าการที่สภาเคยมีมติว่าญัตติที่เสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกลซ้ำ ไม่สามารถทำได้นั้น เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องทางกฎหมาย

นายรังสิมันต์ ยังได้ย้ำในประเด็นนี้ว่า เป็นเรื่องของหลักการ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หรือเพื่อให้ นายพิธา กลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกครั้ง เพราะไม่ว่าแคนดิเดตเป็นใคร จะได้ประโยชน์จากข้อเสนอของพรรคก้าวไกลทั้งสิ้น เว้นเสียแต่บางกลุ่มบางพวกต้องการวางหมากให้การเสนอนายกฯ เกิดขึ้นได้ครั้งเดียว ซึ่งไม่ใช่เจตนาที่ดีแน่ ๆ อาจแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.เพื่อให้พรรคก้าวไกลไม่ผ่านหรือพรรคการเมืองบางพรรคไม่ผ่าน แล้วหวังว่าตัวเองจะได้ประโยชน์ และ 2.เป็นการปูทางไปสู่นายกฯ คนนอก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า การให้เสนอโหวตนายกฯ คนเดียวได้แค่ครั้งเดียว ไม่ใช่เจตนาที่ดีแน่ ๆ 

สำหรับกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติขยายระยะเวลาการพิจารณาไปอีก 30 วัน กรณีที่มีผู้ร้องว่าการหาเสียงโดยใช้มาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เนื่องจากมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติม มีรายละเอียดที่เพิ่มเข้ามา จึงต้องนำตรงนี้มาพิจารณาเพื่อเขียนคำชี้แจงต่อไป เป็นที่มาของการขยายระยะเวลา ส่วนนี้จะเป็นคุณกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ คิดว่าอยู่ที่กระบวนการว่าเราจะมีโอกาสได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจอย่างไร

โดย นายรังสิมันต์ ยังได้แสดงความมั่นใจในเรื่องพยานหลักฐานและการต่อสู้คดี จึงไม่กังวลในเรื่องการยุบพรรค และยังมั่นใจว่ากระบวนการที่ก้าวไกลทำเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่ง มาตรา 112 เคยมีการแก้กันมาโดยตลอด คนท้าย ๆ ที่แก้ล่าสุด คือ คณะรัฐประหาร จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย เราพยายามใช้กระบวนการปกติในการแก้กฎหมายเท่านั้น