คอลัมน์หมายเลข 7 : ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง สุเทพ ปมทุจริตฮั้วประมูลสร้างโรงพักร้าง

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ คุณสุธาทิพย์ ผาสุข สรุปคดีฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพัก 396 แห่ง หลังศาลฎีกาฯ พิพากษา ยกฟ้องนายสุเทพพร้อมพวกรวม 6 คน ไปติดตามจากรายงาน

มหากาพย์ 10 ปี คดีฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดแทนและแฟลตตำรวจ จำนวน 396 แห่ง ที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมพวกรวม 6 คน เดินทางมาถึงบทสรุปตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว

เมื่อวันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง นายสุเทพ กับพวก ซึ่งส่งผลให้ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา

หากย้อนเส้นทางคดีนี้ ป.ป.ช. ได้ระบุพฤติการณ์สรุปของนายสุเทพ พร้อมพวก รวม 6 คน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการจากราคาภาคแยกสัญญา มาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว ทำให้ผู้รับเหมาที่ชนะการประกวดราคา ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จนส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย และ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 2562 แต่เมื่อส่งสำนวนคดีไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ก็มีความเห็นไม่ตรงกัน จนต้องตั้งคณะกรรมการร่วมฯ แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ จนสุดท้ายอัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2564

จากนั้น 30 พฤศจิกายน ป.ป.ช. ก็ได้ยื่นฟ้อง นายสุเทพ พร้อมกับพวก ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลฎีกาฯ นัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปี 2565 กระทั่งนัดอ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 20 กันยายน และมีคำสั่งยกฟ้องด้วยเหตุผลว่า ครม. ได้อนุมัติโครงการในหลักการเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง

แม้เส้นทางการต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมของไทยจะสิ้นสุดลง จบที่ นายสุเทพ กับพวก ผู้อนุมัติโครงการเป็นผู้บริสุทธิ์

แต่หากย้อนกลับไปถึงเรื่องราวการก่อสร้างโครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 และสิ้นสุดสัญญาในปี 2556 ภายใต้วงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท พบข้อมูลว่าประสบกับปัญหาความล่าช้า และผู้รับเหมาทิ้งงาน จนทำให้การก่อสร้างโรงพักหลายแห่งไม่แล้วเสร็จ กลายเป็นโรงพักร้างตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่การติดตามสถานะโครงการล่าสุด ณ เวลานี้ มีคำยืนยันว่า โรงพักร้างต่าง ๆ ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีการใช้งานทั้ง 396 แห่งแล้ว

ผลคดีที่ปรากฏชัดว่าพ้นมลทิน ทำให้เวลานี้ นายสุเทพ เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้องกลับ ป.ป.ช. ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่าไม่หนักใจ เพราะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย

กระบวนทางยุติธรรมที่ยุติ ทุกคนที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียิ้มออกเพราะพ้นผิด แต่สิ่งที่ประชาชนยังกังขาว่าใครควรต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียโอกาส ทั้งความเดือดร้อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไร้สถานที่ทำงาน ประชาชนไร้ความสะดวก จากความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการก็ยังไม่ชัดเจน และประชาชนก็ยิ้มไม่ออกกับการบริหารใช้จ่ายเงินแผ่นดินและภาษีประชาชนของผู้มีอำนาจ