ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สส.เพื่อไทย รุมอัด ปดิพัทธ์ แต่งกายไม่สุภาพ

เช้านี้ที่หมอชิต - ไม่รู้ว่าพอไม่รักกันแล้ว ทำอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมดหรือเปล่า จึงทำให้เมื่อวานนี้ สอง สส.เพื่อไทย ลุกขึ้นมาประท้วง "หมออ๋อง" รองประธานสภาคนที่ 1 จากพรรคก้าวไกล เพราะเห็นว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย

สส.เพื่อไทย รุมอัด ปดิพัทธ์ แต่งกายไม่สุภาพ
เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กำลังพิจารณารับทราบรายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2564 นายนิคม บุญวิเศษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยกมือขึ้นประท้วง จากนั้นจึงลุกขึ้นตำหนิการแต่งกายของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ว่าแต่งกายใส่เสื้อคอจีนและใส่เสื้อสูททับ โดยไม่ติดเนคไท เป็นการแต่งกายไม่สุภาพ เห็นแล้วไม่สบายใจ ไม่เรียบร้อย เกรงจะเป็นบรรทัดฐานให้ที่ประชุม

ตามมาด้วย นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยกมือแล้วกล่าวสำทับเข้าไปอีกว่า การแต่งกายของนายปดิพัทธ์ ไม่ใช่สากลนิยม ควรตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาเรื่องการแต่งกายของ สส.ให้เป็นสากลนิยม

ด้าน นายปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า เคยหารือแล้วว่าการใส่เสื้อคอจีนแล้วใส่สูททับ โดยไม่ใส่เนคไท เป็นชุดสุภาพ ตามระเบียบสภา ตนเคารพทุกคน ถ้าไม่สบายใจก็จะแต่งตัวให้ดีขึ้น แต่ยืนยันว่าแต่งกายถูกต้องตามระเบียบ

ปดิพัทธ์ ยืนยัน แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ
ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ช่วงนี้ นายปดิพัทธ์ โดนหลายเรื่องทั้งโฆษณาเบียร์ เลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา หรือล่าสุดเรื่องเครื่องแต่งกาย แต่นายปดิพัทธ์ยืนยันว่า ไม่กังวล คิดว่าการเมืองในสภา เป็นไปไม่ได้ที่เมื่อมีฝ่ายค้านและรัฐบาลแล้ว จะไม่โต้ตอบหรือถกเถียงกัน เรื่องหมูกระทะหรือเรื่องการแต่งกาย เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งนั้น

นายปดิพัทธ์ ยังตอบเกี่ยวกับกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่งด้วย เพราะหากก้าวไกล รับเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา ตามข้อบังคับจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งรองประธานสภาได้ ซึ่งก็มีข่าวว่า พรรคก้าวไกล จะยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเก็บตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ไว้ นายปดิพัทธ์ ระบุว่า ต้องให้พรรคหารือกันเอง เพราะไม่ได้อยู่ในวงเจรจา แต่ยอมรับว่าไม่ว่าเลือกทางไหนพรรคก็ต้องชั่งใจ เพราะทุกตำแหน่งมีความสำคัญ

ณัฐชา หนุน ปดิพัทธ์ นั่งรองประธานสภาฯ ต่อ
ขณะที่ นายณัฐชา บุญอินไชยสวัสดิ์ สส.รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมาสนับสนุน นายปดิพัทธ์ ปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาต่อไป เพราะเป็นกลไกที่ได้มาโดยชอบธรรม ผ่านการเลือกของที่ประชุมสภามาอย่างถูกต้อง พร้อมตัดพ้อเล็ก ๆ ว่า เราชนะการเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 ขอตำแหน่งประธานสภาก็ถูกกีดกัน ขอนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ ขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้ ต่อมาขอเป็นฝ่ายค้าน ก็ยังโดนกฎกติกาต่าง ๆ ทำให้ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน

20 สส.ปชป.โต้แหกมติ ลั่นไม่รับมรดกความขัดแย้ง
พูดถึงประชาธิปัตย์ เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง ข่าวประชาธิปัตย์ก็ต้องมา เมื่อวานนี้เดือดจัด ฝั่งกลุ่มเพื่อนต่อ นำโดย นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาคใต้ นำ สส.พรรคประชาธิปัตย์ 20 คน แถลงข่าวกรณีโหวตเห็นชอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ขัดกับมติพรรคที่ให้งดออกเสียง

โดยระบุว่า เพราะวันประชุมพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ได้ลุกขึ้นพูดในที่ประชุมว่า อย่าโหวต เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. และในการประชุมวันนั้นไม่มีการโหวต จึงไม่รู้ว่าจะเป็นมติหรือไม่เป็นมติกันแน่ ต่อมาวันที่ 22 สิงหาคม พอมีการโหวต 3 คนแรกที่โหวตคือ นายจุรินทร์งดออกเสียง, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน โหวตไม่เห็นชอบ นายชวน หลีกภัย ก็โหวตไม่เห็นชอบ นี่คือสามเสาหลักของประชาธิปัตย์ ลงคะแนนก็ไม่เหมือนกัน จึงนั่งคุยกันว่าอย่างนี้ไม่ใช่มติพรรค จึงมาแยกพิจารณา

นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า เราเป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ทั้งหมด ไม่เคยใส่เสื้อเหลือง ไม่เคยใส่เสื้อแดง ไม่เคยมีความขัดแย้ง จึงไม่ควรจะมารับมรดกความขัดแย้งต่อจากรุ่นเก่า ๆ ทุกคนมีความเห็นว่าขอให้ชาติเดินไปข้างหน้าได้ 

ชวน แฉกลับกลุ่ม สส.โหวตเศรษฐา เสนอเองไม่โหวตนายกฯ
ด้าน นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงโต้ทันที ระบุว่า วันประชุมพรรค ตีรถมาจากจังหวัดตรัง ตั้งแต่ 04.00 น. เพื่อให้ทันการประชุม เพราะไม่อยากลงมติขัดต่อมติพรรค บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเล่ บอกกับที่ประชุมว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมรัฐบาล จึงต้องลงมติไม่รับนายเศรษฐา

ส่วนสิ่งที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค พูดกับที่ประชุมคือ เมื่อมีรัฐบาลต้องมีฝ่ายค้าน ดังนั้นเมื่อเราไม่ได้ไปรัฐบาล ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน ตนจึงขออนุญาตที่ประชุมขอลงมติไม่รับ โดยให้เหตุผลว่าสู้กับพรรคการเมืองเหล่านี้ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนขอทำหน้าที่ไม่ทรยศต่อคนภาคใต้

เมื่อถามว่าพรรคยังไม่แตกใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไม่เป็นไร มีกี่คน ตนก็อยู่ เว้นแต่ตนถูกขับ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark