ล่าคนร้ายชิงปืนตำรวจ จี้ชิงรถชาวบ้านหลบหนี จ.อุตรดิตถ์

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ไปติดตามความคืบหน้าเหตุระทึกกลางเมืองอุตรดิตถ์ ที่มีคนร้ายแย่งปืนจากตำรวจ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ล่าสุดเจอรถแล้วแต่ยังไม่เจอคนร้าย ตอนนี้ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งแกะรอยล่าตัว

เป็นภาพวงจรปิด ตำรวจสายตรวจจราจร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กับคนร้ายขัดขืน ก่อนจะถูกคนร้ายแย่งอาวุธปืนของตำรวจไปได้ หลังจากตำรวจขอตรวจรถจักรยานยนต์ เพราะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนกล้องวงจรปิดอีกมุม จะเห็น คนร้ายวิ่งไปจี้ชิงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านขณะจอดติดไฟแดง ขี่หลบหนีไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ที่จุดตัดทางรถไฟบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านเกาะ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจตรี สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับรายงานว่าพบรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ถูกคนร้าย คือ นายพิษณุ หรือแจ็ค อายุ 40 ปี  ผู้ต้องหาหนีหมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ในคดียาเสพติด ใช้หลบหนีจอดอยู่ใต้กอไผ่หน้ากุฏิพระสงฆ์ ภายในวัดธรรมาธิปไตย เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝง ก่อนที่จะประสานไปยังเจ้าของรถ จักรยานยนต์เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด และอนุญาตให้รับรถจักรยานยนต์กลับคืนไปได้ 

พลตำรวจตรี สุทธิพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพระในวัดให้ข้อมูลว่า พบรถคันดังกล่าวมาจอด เวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้  ขณะที่กำลังกวาดลานวัด แต่ไม่ได้สงสัย เพราะปกติที่วัดญาติโยมจะนำรถมาจอดเป็นประจำ โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการนัดหมายให้มีคนมารับเพื่อหลบหนี

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามหาเบาะแสไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่าง ๆ รวมทั้งตั้งจุดตรวจคุมเข้มทุกเส้นทาง โดยเน้นตามแนวชายแนว ช่องทางธรรมชาติ ที่เชื่อมต่อระหว่างไทยกับ สปป.ลาว และยังเชื่อว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่กดดันทุกวิธีการเพื่อขอให้มอบตัว แต่ก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และคาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้

พร้อมทั้งเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 คดี คือ ชิงทรัพย์ โดยมีอาวุธ และต่อสู้ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน เพิ่มกับคนร้ายอีกด้วย หากรวมกับคดีที่โดนไปก่อนหน้านี้ 4 คดี คนร้ายคนนี้จะมีคดีติดตัวถึง 6 คดี

ขณะที่เจ้าของรถที่คนร้ายชิงมา ก็ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ พร้อมขอรับรถจักรยานยนต์กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย