ยายใช้ท่อนฟืนตบหน้าหลาน ป.4 อ้างอยากให้ไปเรียน จ.บุรีรีมย์

เช้านี้ที่หมอชิต - เด็ก ป.4 ถูกยายใช้ท่อนไม้ฟืนฟาดและฉุดกระชากลากถู พาไปขึ้นรถซาเล้ง บังคับให้ไปโรงเรียน เด็กบอกไม่ไป จะไปจับปลากับเพื่อน เลยถูกตีจนเขียวช้ำไปทั้งตัว ด้านพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัด ทราบเรื่อง ไม่พอใจ ให้ป้าไปแจ้งความดำเนินคดี

นางสาวศรัญญา อายุ 30 ปี ชาวอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ป้าของเด็กชายอายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอลำปลายมาศ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศ ให้ดำเนินคดีกับ นางเอ อายุ 67 ปี และนางบี อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นยายและยายทวด ของเด็กชายอายุ 10 ขวบ

โดยกล่าวหาว่ายายและยายทวด ร่วมกันทำร้ายร่างกายเด็กซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ ด้วยการใช้ท่อนไม้ฟืนตีที่ขา ลำตัว ใช้มือตบหน้า และใช้กำลังดึงกระชากให้ขึ้นรถซาเล้งเพื่อบังคับให้ไปโรงเรียน จนหลานมีรอยเขียวช้ำตามขา ลำตัว หน้าผาก ใบหน้า และใบหู 

นางสาวศรัญญา บอกว่า หลังจากที่พ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน หลานก็อาศัยอยู่ที่บ้านปู่กับย่า ส่วนพ่อของเด็กไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด คนในครอบครัวก็ช่วยกันดูแล แต่เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กัน ที่ผ่านมาหลานก็จะไปกินข้าวไปเล่นที่บ้านยายและยายทวดเป็นประจำ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่ตอนเช้าของวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ยายทวดก็เข้ามาในบ้าน บอกให้หลานไปโรงเรียน แต่เด็กบอกว่าไม่อยากไป และเพราะจะไปหาปลากับเพื่อน ซึ่งน้องบอกว่าได้ขออนุญาตอาแล้ว แต่พอน้องบอกว่าไม่อยากไป ยายทวดก็ใช้ไม้ตีหลาน และฉุดกระชากให้ไปขึ้นรถซาเล้ง มีการตบหน้าและบังคับหลานขึ้นรถ 

ซึ่งตนก็เห็นเหตุการณ์ตลอดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นยาย แต่พอพ่อเด็กทราบเรื่องก็ให้พาเด็กไปโรงพยาบาลและไปแจ้งความ

ด้านยายทวด ก็ยอมรับว่าได้ใช้ไม้ตีหลานจริง แต่ทำไปเพราะเป็นห่วงและหวังดีกับหลาน เพราะครูที่โรงเรียนบอกว่าหลานขาดเรียนบ่อย ไปเรียนแค่สัปดาห์ละ 1-2 วัน เท่านั้น แต่เมื่อพ่อเขาไม่พอใจ และไปแจ้งความเอาผิด จากนี้ก็จะไม่ยุ่งกับหลานอีก

ด้าน นางสาวนุช อายุ 29 ปี แม่ของเด็ก บอกว่า แม่ของตนเองทำไปเพราะอยากให้หลานเชื่อฟังและไปโรงเรียน แต่ในเมื่ออีกฝ่ายแจ้งความ ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะคุยกันก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ยืนยันว่ายายทำไปเพราะหวังดีกับหลาน