ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ร้าน ปังชา เครียดหนัก ถูกร้านดังฟ้องเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท จ.เชียงราย

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าของร้าน ปังชา ยอมรับเครียดหนัก หวั่นล้มละลาย หลังถูกร้านดังฟ้องเรียกค่าเสียหายร้อยล้านบาท ยืนยันไม่มีเจตนาลอกเลียนแบบ ล่าสุดพบอีก 2 ร้านโดนโนติสด้วย

ร้าน ปังชา เครียดหนักถูกร้านดังฟ้องเรียกค่าเสียหาย 102 ล้าน
ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับ นายวีระชาติ ไอยรากาญจนศักดิ์ เจ้าของร้านขนมปังปิ้ง-ชาและเครื่องดื่ม ที่จังหวัดเชียงราย เล่าว่าตนมีร้าน 2 แห่ง ร้านแรกอยู่ในฟู้ดคอร์ทห้างแห่งหนึ่ง และอีกร้านอยู่ในตัวเมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม ได้รับหนังสือโนติสจากสำนักงานทนายความ อ้างว่า ร้านตนละเมิดเครื่องหมายทางการค้า เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท หากยังไม่เปลี่ยนชื่อร้านภายใน 7 วัน จะถูกปรับอีกวันละ 10,000 บาท ต่อ 1 ร้าน

ด้วยความตกใจ จึงรีบเปลี่ยนชื่อร้าน และหาข้อมูลว่าชื่อร้านผิดจริงหรือไม่ ไปพบว่าผู้ร้องมีการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ส่วนตนเปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2564 ขายขนมปังปิ้งกับชา จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อร้านตามเมนูที่ขาย ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร และไม่มีเมนูน้ำแข็งไสใส่ชาไทยขายด้วย

ตอนนี้ยอมรับว่าเครียดมาก นอนไม่หลับหลายเดือนแล้ว ได้แต่สงสัยว่าผิดอะไร คิดมากไปถึงขั้นว่า คงต้องปิดกิจการล้มละลาย หรือต้องหย่ากับภรรยา เพราะไม่อยากให้ครอบครัวมากระทบด้วย

โผล่อีก ร้านใน อ.หาดใหญ่ โดนเรียกค่าเสียหาย 7 แสนบาท จ.สงขลา
ล่าสุดมีอีก 2 ร้าน ที่ถูกเรียกค่าเสียหายลักษณะเดียวกัน หนึ่งในนั้นเป็นร้านชา ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับหนังสือเรียกค่าเสียหาย 700,000 บาท จากการใช้คำว่า "ปังชา" ที่ป้ายไฟของร้าน

นางสาวปัณณ์ปรุฬห์ กาญจนโสรัตน์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านทางช้างเผือก บอกว่า เปิดร้านวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา พอมาวันที่ 26 สิงหาคม มีหนังสือส่งมาแจ้งร้านว่าตนละเมิดเครื่องหมายการค้า ทั้งที่เมนูปังชาของร้านเป็นขนมปัง ราดสังขยา-ชาไทย ยืนยันว่า ตั้งใจเปิดร้านทำมาหากิน ไม่มีเจตนาไปลอกเลียนใคร

เบื้องต้น ทางร้านได้ทำการลอกสติกเกอร์สีฟ้า คำว่า "ปังชา" ออกไปจากป้ายไฟหน้าร้านแล้ว เพื่อตัดปัญหา รวมทั้งในเพจของทางร้านที่บางโพสต์ จะมีแฮชแท็กปังชาก็ลบออกด้วยเช่นกัน เนื่องจากไม่อยากมีปัญหา

นักกฏหมาย ยืนยัน ปังชา ใช้ได้ ไม่โดนฟ้อง
ด้าน นายพีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและนักวางแผนการเงิน โพสต์อธิบายกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า เคสนี้ทางร้านมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า, สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์, จดแจ้งลิขสิทธิ์จริง แต่จะไปห้ามใครทำบิงซู หรือ น้ำแข็งไส ใส่ชาไทยไม่ได้ รวมถึงการห้ามใช้คำว่า ปังชา เพราะเป็นคำสามัญ ดังนั้นการจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ ต้องไม่มีลักษณะสามัญของสินค้าเหล่านั้น

ดังนั้นทางร้านยังสามารถใช้ชื่อเดิมต่อไปได้ ส่วนเรื่องค่าเสียหายในเมื่อเรามีสิทธิใช้ชื่อร้านว่าปังชา คู่กรณีไม่สามารถเรียกค่าเสียหายได้ และถ้าถูกฟ้องจริง ก็สามารถไปต่อสู้ที่ศาลได้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark