ขอความเป็นธรรม ติดคุกฟรี 80 วัน
ข่าวสังคม 31 สิงหาคม 2566 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - ทีมข่าวยังคงเกาะติดกรณีแพะคดียาเสพติด ที่ติดคุกฟรี 80 วัน ที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ วันนี้แพะคนดังกล่าวจะไปร้องกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนอื่นไปดูภาพวันที่ชายคนนี้ออกจากเรือนจำก่อน
นี่เป็นภาพขณะ นายอนุชา ศิริพิน อดีตผู้ต้องหา ซึ่งถูกออกหมายจับผิดคน เดินออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โผเข้าก้มกราบและสวมกอดพ่อแม่ด้วยความตื้นตันใจ หลังจากติดคุกฟรีถึง 80 วัน เมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นายอนุชา ถูกตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 จับกุมตัวเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ภายในร้านแอร์ที่ นายอนุชา ทำงานอยู่ เพราะถูกศาลอาญาออกหมายจับในข้อหาไม่มารายงานตัวตามที่ศาลกำหนด ในคดีเสพยาเสพติด ที่ผ่านมาพ่อแม่ของ นายอนุชา พยายามยื่นขอประกันตัวถึง 7 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมานาน 3 ปี ทำให้ต้องติดคุกฟรีเป็นเวลาถึง 80 วัน จน นายอนุชา เกือบจะถอดใจยอมรับสภาพ ไม่อยากขอให้ครอบครัวต้องมาเดือดร้อนคอยประกันตัวอีก
จากนั้นครอบครัวไปขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด และมีการประสานไปยังตำรวจที่รับผิดชอบคดีให้ตรวจสอบ จนพบว่าเป็นการออกหมายจับผิดคน จึงไปขอศาลถอนหมายจับ และมีคำสั่งสั่งให้ปล่อยตัว
ส่วนผู้ต้องหาตัวจริง คือ นายภูวดล เป็นเพื่อนของ นายอนุชา ซึ่งถูกตำรวจ 191 เรียกตรวจค้นรถ และตรวจพบสารเสพติด จึงถูกแจ้งข้อหา แต่ นายภูวดล อ้างชื่อของ นายอนุชา และขอบัตรประชาชนของ นายอนุชา ไปใช้ อ้างเป็นหลักฐานการประกันตัว ต่อมาผู้ต้องหาตัวจริงหนีประกันตัว จึงออกหมายจับตามชื่อในบัตรประชาชน นายอนุชา จึงโดนจับ ทั้งนี้พบว่า นายภูวดล ศัลยกรรมตกแต่งเปลี่ยนใบหน้า เพื่อหลบหนีคดีอีกด้วย
วันนี้ทาง เพจสายไหมต้องรอด พา นายอนุชา และครอบครัวไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือขอรับเงินเยียวยา โดย นายอนุชา ตอนนี้อยู่ในสภาวะค่อนข้างเครียด นอนร้องไห้มา 2 คืน และไม่สะดวกจะให้ข้อมูลอะไร ซึ่งบิดาของ นายอนุชา บอกว่า ผู้ต้องหาตัวจริง หลังจากเกิดเรื่อง พ่อแม่ก็พยายามโทรหา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงให้เพื่อนอีกคนโทรไปหา แล้วเล่าทุกอย่างให้ฟัง ผ่านไปไม่กี่วันผู้ต้องหาตัวจริงก็ติดต่อกลับมาหาพี่สาวของ นายอนุชา เพื่อขอโทษ และตอนนี้ก็ไม่สามารถทำงานได้ แม่ก็ป่วย แถมยังต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลลูกวัย 4 ขวบ พร้อมกับถามด้วยว่า ทำไมต้องหลบหนี ซึ่งผู้ต้องหาตัวจริงบอกว่า ไม่คาดคิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ จึงได้แต่กล่าวขอโทษ แต่ล่าสุดในวันนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน
เรื่องการช่วยเหลือ ทาง นางสาวศกลวรรณ ชัยภักดี หัวหน้ากลุ่มงานแผน และพัฒนางานบริการ ศูนย์บริการ กระทรวงยุติธรรม บอกว่า จะไปตรวจสอบว่า เรื่องนี้ถึงที่สุดแล้วหรือยัง จากนั้นจึงจะเริ่มการเยียวยา ส่วนกรอบวงเงินนั้น เป็นไปตามข้อเท็จจริง โดยอ้างอิงจากการที่ต้องสูญเสียรายได้ในแต่ละวัน
ส่วนทางด้านคดีความนั้น ทีมข่าวสอบถามไปยังตำรวจที่รับผิดชอบคดี ทราบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนตามหาผู้ต้องหาตัวจริงอยู่
