ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

กำนันนก เดินคอตก ถูกคุมตัวฝากขัง

ข่าวภาคค่ำ - "กำนันนก" เดินคอตก เครียดหนัก หลังถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยยังปากแข็งให้การปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งให้ลูกน้องยิงตำรวจทางหลวงที่มาร่วมงานเลี้ยงในบ้านของตนเอง

วันนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามควบคุมตัว นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ในความผิดฐาน "เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น" ที่เป็นผู้สั่งให้ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้อง ยิง พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เสียชีวิต ในงานเลี้ยงบ้านของนายประวีณ ไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ มีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล จึงเกรงว่าจะไปทำลายหลักฐาน ยุ่งเหยิง และข่มขู่พยานได้

โดยระหว่างที่นำตัว นายประวีณ ขึ้นรถควบคุม มีสีหน้าอิดโรย และเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม นายประวีณ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น และเป็นคนสั่งให้ นายหน่อง ยิงตำรวจหรือไม่ แต่นายประวีณไม่พูดหรือตอบคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่ นายเชาว์ แก่นสวาท ทนายของนายประวีณ ได้เปิดเผยสั้น ๆ ว่า ยังไม่มีการยื่นประกันตัว นายประวีณ แต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวไม่ประสงค์จะขอประกัน โดยไม่ได้ระบุเหตุผล

มีรายงานว่า นายประวีณ ยังคงยืนกรานปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอไม่ให้การใด ๆ ในชั้นสอบสวน อ้างเพียงว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้ นายธนัญชัย ก่อเหตุยิง พันตำรวจตรีศิวกร แต่อย่างใด แต่พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมเพราะมีพยานหลักฐานจำนวนมาก ต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อสำนวนแล้วเสร็จก็จะส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องตามขั้นตอนต่อไป โดยมั่นใจว่าสามารถเอาผิด นายประวีณ ได้อย่างแน่นอน

ส่วนทางคดี พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า จากการสอบปากคำและตรวจสอบพยานแวดล้อมต่าง ๆ ชัดเจนแล้วว่า ผู้ที่สั่งการให้ยิงตำรวจคือ กำนันนก พร้อมยอมรับหลังเกิดเหตุมีชายชุดดำเข้าไปในที่เกิดเหตุ มีการเจรจา ตกลง รวมถึงทำลายพยานหลักฐาน จากเดิมหลังจากก่อเหตุยิง ได้มีการล็อกตัว หน่อง ท่าผา ไว้แล้ว แต่กลับปล่อยตัวให้หลบหนีไป รวมถึง กำนันนก ด้วย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนที่ นายหน่อง ท่าผา ใช้ยิงตำรวจนเสียชีวิตนั้น เป็นปืนจากโครงการตำรวจ ซึ่งมีการขายต่อให้กับ หน่อง ท่าผา  1 เดือนก่อนจะนำมาก่อเหตุ รวมถึงปืนที่ใช้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะขอให้มอบตัว ก็เป็นอาวุธปืนของกระทรวงมหาดไทย หลังจากนี้จะขยายผลที่มาที่ไปของปืน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยล่าสุดตำรวจขยายผลหาปืนที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าถูกฝังไว้ข้างคลองประปาไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยคนที่นำไปฝังไว้คือคนงานของ นายประวีณ ซึ่งรับสารภาพทั้งน้ำตาอ้างว่าถูกสั่งให้นำไปฝัง เพื่ออำพรางหลักฐาน และรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก

ส่วนความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับตำรวจที่ร่วมกระทำความผิด ปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนี มีส่วนช่วยในการทำลายหลักฐานแล้วไม่ต่ำกว่า 6 นาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีตำรวจระดับชั้นนายพันด้วย

ล่าสุด มีคำสั่งด่วนที่สุดถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ขอทราบรายละเอียดดำเนินคดี เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ที่ให้ นายประวีณ มาโต้แย้ง ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุ ว่าต้องเร่งจัดการ ไม่ให้ผู้นำชุมชน สะสมอิทธิพล ต้องจำกัดการถือครอง ตอนนี้ต้องจัดระเบียบใหม่ ที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark