|
นักดนตรีเล่าวินาที ก่อนหน่องลั่นไกยิงสารวัตรแบงค์
ความคืบหน้าคดียิงสารวัตรแบงค์ ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ย.66) ทีมข่าวได้คุยกับนายออฟ หนึ่งในนักดนตรีที่ไปร่วมงาน และเป็นพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าวินาทีก่อนที่นายหน่อง จะใช้ปืนยิงสารวัตรแบงค์ว่า นายหน่องเพิ่งยื่นเงินค่าจ้างให้ตน ก่อนจะลงมือก่อเหตุ โดยตนรับจ้างนำเครื่องเสียง ลำโพงไปติดตั้งที่งานเลี้ยงของกำนันนกในวันเกิดเหตุ โดยคิดค่าจ้างในราคา 2,500 บาท และเริ่มเล่นตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปจนถึง 3 ทุ่มกว่าๆ หลังจบงานนายหน่องได้นำเงินค่าจ้างมาจ่ายให้ตน 3 พันบาท ตนบอกว่าไม่มีทอน นายหน่องก็บอกว่าไม่ต้องทอน ตนก็บอกขอบคุณ แต่นายหน่องเลยบอกว่า ไม่ต้องขอบคุณ เงินกำนัน ตนจึงเดินไปขอบคุณกำนันนก ก่อนที่กำนันนกจะบอกว่า มีโอกาสหน้าได้เจอกัน พอหันหลังมาก็มีการยิงกัน โดยนายหน่องเป็นคนยิง คล้อยหลังจากที่ตนเพิ่งรับเงินค่าจ้างไปไม่ถึง 2 นาที
และพอยิงเสร็จ ก็มีชาย 5-6 คนเข้ามากอดนายหน่อง และบอกว่า “ให้ใจเย็นๆ” พร้อมมีชาย 2 คน ประคองกำนันนกไว้ ก่อนที่จะพาทั้งคู่เดินเข้าไปยังภายในบ้าน โดยนำตัวนายหน่องเข้าไปในห้องกระจก แต่ตนไม่ทราบว่าใช่ตำรวจรึเปล่า เพราะไม่ได้แต่งชุดตำรวจ และไม่ทันสังเกตว่าตัดผมสั้นเหมือนตำรวจหรือไม่ หลังจากนั้นตนจึงรีบเก็บของและออกจากที่เกิดเหตุทันทีด้วยความตกใจ จึงไม่ได้สังเกตว่ากำนันนกและนายหน่องออกไปในช่วงเวลาใด สำหรับตำรวจนายอื่นๆ นั้นก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันออกไปจากจุดเกิดเหตุ ส่วนเจ้าของโต๊ะจีนก็มาเก็บของและเก็บโต๊ะที่เกิดเหตุด้วย แต่มีคนตะโกนบอกว่าอย่าเพิ่งเก็บ เดี๋ยวเขาหาว่าเป็นการทำลายหลักฐาน โดยประเด็นที่ว่าหลังเกิดเหตุมีคนสั่งให้ล้างคราบเลือดหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจมีใครสั่งให้ล้างคราบเลือดหรือไม่ แต่มีเพียงคนงานในสำนักงานของกำนันที่มีการทำความสะอาดโต๊ะยาว ซึ่งไม่เกี่ยวกับโต๊ะที่เกิดเหตุ
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไม่มีการยิงระงับเหตุนั้น นายออฟ เล่าว่า ถ้ายิงกัน ลูกกระสุนโดนตนแน่นอน เพราะตนกับคนร้ายอยู่ระยะเดียวกัน ซึ่งขณะเกิดเหตุ ทุกคนกำลังตกใจ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
ขณะที่พ่อของนายออฟ ที่ไปร่วมงานด้วย ก็ยืนยันตรงกันว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงรีบเก็บข้าวของ โดยยืนยันว่า พวกตนเพิ่งไปครั้งแรก และไม่รู้จักกำนันนกมาก่อน โดยทางกำนันนก เพิ่งจะติดต่อพวกตนมาตอน 4 โมงเย็น และให้เอาเครื่องเสียงไปติดตั้งตอน 6 โมงเย็น
