บิ๊กโจ๊ก ลั่น ออกหมายจับเพิ่ม คดียิง สารวัตรแบงค์

เช้านี้ที่หมอชิต - ด้านความคืบหน้าของคดี "บิ๊กโจ๊ก" เผย กู้ภาพวงจรปิดได้แล้วเกือบ 100% ยืนยันมีหมายจับเพิ่มแน่ รอดูหลักฐาน ส่วนกรณีผู้กำกับ สน.แห่งหนึ่งข่มขู่นักข่าว ขอให้มาแจ้งความที่ตนเองได้เลย พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจที่ร่วมอยู่ในงานเลี้ยงกล้าพูดความจริง

บิ๊กโจ๊ก ลั่น ออกหมายจับเพิ่ม คดียิง สารวัตรแบงค์
พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดียิงสารวัตรแบงค์ ว่า ขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนว่ามีตำรวจอยู่ร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก จำนวน 28 นาย และพลเรือน 27 คน ในจำนวนนี้ มีตำรวจ 6 นาย ถูกแจ้งข้อหาและฝากขังไปแล้ว และมีข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ 1 คน และพลเรือน 4 คน ถูกดำเนินคดีฐานทำลายหลักฐาน

ส่วนจะแจ้งข้อหา หรือ ออกหมายจับใครเพิ่มเติมยังต้องรอการกู้ไฟล์เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดให้ได้ก่อน ตอนนี้กู้ได้แล้วเกือบ 100% ยืนยันว่ามีการออกหมายจับเพิ่มแน่นอนทั้งตำรวจและพลเรือน ส่วนเซิร์ฟเวอร์หากกู้สำเร็จจะไม่มีการนำมาเปิดเผยเนื่องจากทนายของจำเลยอาจจะใช้ต่อสู้คดีได้ ดังนั้นตนเองจะไปดูและเป็นผู้นำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเอง

สั่งสอบปม พ.ต.อ. ข่มขู่นักข่าว
ส่วนกรณีที่ตำรวจยศ พลตำรวจเอก ผู้กำกับ สน.แห่งหนึ่ง ข่มขู่ผู้สื่อข่าว ว่า "จะให้ตายเพิ่มอีกกี่คน ถ้าเจอพี่ที่ภาค 7 ก็ไม่ต้องสัมภาษณ์นะ เดี๋ยวปืนมันจะลั่นใส่พวกเอ็ง"

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ บอกว่า เชื่อว่าเรื่องนี้เกิดจากความเครียด หลังจากนี้หากผู้สื่อข่าว ยังติดใจสามารถแจ้งความผ่านตัวเองได้ ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จัดกำลังไปดูแลผู้สื่อข่าว ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ เชื่อว่าทำไปเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ บอกว่า เวลานี้ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์งานเลี้ยงทั้งหมดยังให้การไม่เป็นความจริง ส่วนตัวมองว่าต้องมีจิตสำนึก รักพวกพ้องตำรวจด้วยกัน เพราะตอนนี้มีตำรวจถูกยิงตายแล้วหนึ่ง บาดเจ็บหนึ่ง และปลิดชีพเพิ่มอีก ดังนั้น ก็ควรออกมาพูดความจริง เพราะสาเหตุการตายที่เกิดขึ้น เกิดจากการเป็นไม้ค้ำยันให้กับผู้มีอิทธิพล ซึ่งแย่เต็มที

พบเส้นทางการเงิน กำนันนก-หน่อง โอนถึงตำรวจ จริง จ.นครปฐม
ล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ (12 ก.ย.) พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์หลังมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีว่า ได้สอบปากคำตำรวจและพลเรือนในคืนเกิดเหตุครบหมดแล้ว พบตำรวจเกี่ยวข้องอีก 1 นายรวมเป็น 29 นาย และพบเส้นทางการเงินของ "กำนันนก" และ "นายหน่อง" โอนตรงไปที่ตำรวจ แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร ขอเป็นความลับในสำนวน

หลังจากนี้จะขยายผลตรวจค้นเครือข่ายธุรกิจของ "กำนันนก" พร้อมประกาศว่า จังหวัดนครปฐม ต้องเป็นจังหวัดที่เป็นแบบอย่าง หากผู้การฯ คนไหน หรือ ผู้กำกับการฯ คนไหนไม่มีศักยภาพก็ไม่ต้องอยู่