คุมตัว พ่อ-แม่ โหดฆ่าลูกฝากขัง ลั่นไม่ได้ทำทั้งหมด

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานตำรวจคุมตัวพ่อแม่โหดฆ่าโบกปูนลูก 2 ขวบ ฝากขัง นายเอ็ม บอกอยากขอโทษ ลั่นไม่ได้ทำทั้งหมด

คุมตัว พ่อ-แม่ โหดฆ่าลูกฝากขัง ลั่นไม่ได้ทำทั้งหมด
ช่วงบ่ายวานนี้ พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ควบคุมตัว นายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม อายุ 46 ปี และ นางสุนัน หรือ จุ๋ม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูนน้องโมเดล ลูกสาววัย 2 ขวบ ขึ้นรถคุมขัง เพื่อนำตัวไปฝากขัง 

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายเอ็มว่า ได้ฆ่าเด็กทารกหรือเปล่า โดยนายนายเอ็มตอบเพียงว่า อยากขอโทษ และผมไม่ได้ทำทั้งหมด

ส่วนนางสุนัน ก้มหน้าก้มตาหลบเลี่ยงสื่อ โดยไม่พูดจาหรือตอบคำถามใด ๆ เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยนายส่องศักดิ์ ถูกนำตัวส่งไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนนางสาวสุนัน ถูกนำตัวส่งทัณฑ์สถานหญิงกลาง

โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า ผลการตรวจอาการทางจิตเวชของนายเอ็ม หลังอ้างว่า ตัวเองหูแว่ว และมีอาการหลอน ผลปรากฏว่า นายเอ็มพูดคุยได้ตามปกติ โต้ตอบได้ปกติ และไม่มีอาการหลอน ทำให้แพทย์ประเมินอาการโดยรวมว่า ปกติ ไม่ได้มีอาการทางจิตเวช

เพื่อนเผย เอ็ม เป็นคนก้าวร้าวตั้งแต่เล็ก ท้าต่อยกับครู จ.ตรัง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านของพ่อ นายเอ็มในพื้นที่ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ที่อาศัยอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน แต่ไม่พบใคร บ้านล็อก ประตูรั้วปิดสนิท

สอบถามเพื่อนรุ่นพี่นายเอ็ม เล่าว่า รู้จักกับนายเอ็มและเรียนประถมมาด้วยกัน สมัยประถมจะมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนในโรงเรียนบ่อยครั้ง บางครั้งเคยทะเลาะกับครู ท้าเตะ ท้าต่อยกับครูเสมอ เมื่อทราบข่าวว่า นายเอ็มฆ่าลูก จึงไม่แปลกใจ เพราะนิสัยดั้งเดิมของนายเอ็มเป็นคนก้าวร้าวอยู่แล้ว

พ่อตาเอ็ม ร่ำไห้ เพิ่งรู้มีหลานชาย 4 คน ถูกฆ่าตายหมด จ.ชุมพร
ทีมข่าวยังเดินทางไปที่บ้านพักของพ่อนางสาวเจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ของนายเอ็ม ในตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร

พ่อของนางสาวเจษฎา กล่าวทั้งน้ำตาว่า นายเอ็มชอบบังคับ ซ้อมทารุณลูกสาวมาตลอด ที่ผ่านมาไม่เคยรู้มาก่อนว่า ลูกสาวมีลูกถึง 5 คน รู้เพียงว่า มีหลานสาวเพียงคนเดียว รู้สึกสะเทือนใจมากเมื่อรู้ว่า หลานชายอีก 4 คน ถูกฆ่าตายทั้งหมด จึงอยากให้ช่วยคนหาศพหลาน ๆ ให้เจอทุกคน อยากเอากระดูกมาทำบุญ ยืนยันไม่ให้อภัยนายเอ็ม

สำหรับนางสาวเจษฎา เป็นภรรยาคนที่ 2 ของนายเอ็ม มีลูกด้วยกัน 5 คน เสียชีวิตไป 4 คน ตั้งแต่ปี 2556, 2557, 2559 และ 2561 นำศพไปทิ้งย่านสายไหม 2 คน ย่านบางซื่อ 2 คน เหลือ 1 คน คือ เด็กอายุ 12 ปี ตอนนี้อยู่ที่สถานสงเคราะห์