ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เสรีพิศุทธ์ ฟันธง ค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก เล่นสกปรกชกใต้เข็มขัด

เช้าข่าว 7 สี - พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส แสดงความคิดเห็น ค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก เป็นการเล่นสกปรก ชกใต้เข็มขัด หวังดิสเครดิต ก่อนตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 14 พร้อมเตือนนายกฯ อย่าถูกหลอก อ่านกฎหมายตำรวจให้แม่น ระวังติดคุก

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้า พรรคเสรีรวมไทย อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงหลังมีการบุกเข้าจับกุมลูกน้องคนสนิท และบุกเข้าค้นบ้าน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง มีสาเหตุมาจากกำลังจะมีการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ใน 2 วันนี้

โดยในอดีตไม่เคยมีการเข้าค้นบ้านผู้บังคับบัญชาระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาก่อน มีเพียงความพยายามล้มล้าง ซึ่งปกติการจะขอหมายศาลเข้าค้นบ้านตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่แบบนี้ จะต้องมีมูลเหตุชัดเจนเพียงพอ ให้ศาลมีความเชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง ดังนั้นเรื่องนี้เชื่อว่าหากผู้ไปขอหมายศาล ระบุชื่อว่าจะค้นบ้านของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ศาลคงไม่ออกหมายค้นให้ และคงไม่วินิจฉัยง่าย ๆ ครั้งนี้จึงไม่รู้ข้อเท็จจริงว่ามีการระบุรายละเอียดอย่างไรบ้าง

และที่มีตำรวจ บอกว่า ไม่รู้มาก่อนว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านพักอาศัยของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ นั้น ส่วนตัวมองว่าอาจมีความเป็นไปได้เฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย แต่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่จะไม่รู้เป็นไปไม่ได้ และการใช้ตำรวจคอมมานโดเข้าตรวจค้น ปกติก็ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจคอมมานโด มองว่าไม่เหมาะสม ใช้ผิดวัตถุประสงค์

ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีของกำนันนก ก็มีความเป็นไปได้ แต่ช่วงนี้กำลังจะมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในอีก 2 วัน ฉะนั้นขอฝากเตือนนายกรัฐมนตรีว่าจะแต่งตั้งใครต้องคิดให้รอบคอบ โดยเฉพาะมาตรา 78 ที่จะต้องคำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะเรื่องการสืบสวนสอบสวน และประสบการณ์ในการป้องกันปราบปราม ซึ่งต้องมีผลงานปรากฏที่ชัดเจน หากมีการแต่งตั้งข้ามระบบอาวุโสก็จะทำให้วงการตำรวจตกต่ำ และจะไปโทษตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไปรับเงินคนแบบกำนันนกก็ไม่ได้ เพราะมีผู้บังคับบัญชาเป็นแบบนี้

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังขอฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่าจะต้องรู้และเข้าใจกฎหมายตำรวจ ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษ ที่มีรายละเอียดถึง 181 มาตรา ซึ่งการแต่งตั้งหากไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรมอาจจะถูกดำเนินคดีได้ ตามมาตรา 78 และจะถูกดำเนินคดีในมาตรา 87 มีโทษจำคุก 5 ปี ซึ่งในมาตรา 87 มีข้อกำหนดไว้ชัดเจนว่า "หากตำรวจเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีสิทธิ์ร้องทุกข์ตามระบบพัฒนาคุณธรรม ตามกฎ ก.ตร. และยังยื่นร้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้ และหากมีเรื่องไปถึง และผู้บังคับบัญชาไม่ทำตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้งมีความผิดทางวินัย และผู้ใดซื้อขายตำแหน่ง หรือแอบอ้างอำนาจบุคคลใด (มีใครสั่งมา) กรณีที่บุคคลนั้นควรได้ตำแหน่ง แต่ไม่ได้ ผู้ที่แต่งตั้งมีโทษจำคุก 5 ปี"

ซึ่งการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะเกิดขึ้นนี้ ไม่อยากให้นำกรณีการบุกค้นบ้าน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ มาประกอบการพิจารณา เพราะมองว่าเป็นวิธีที่สกปรกชกใต้เข็มขัด ไม่ควรมีเหตุการณ์นี้ นอกจากนี้ยังมองว่าเหตุการณ์นี้ เป็นการข่มขวัญ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ดิสเครดิตทำให้เสียภาพพจน์

นอกจากนี้ ตอนนี้ในองค์กรตำรวจมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งฝ่ายกัน แก่งแย่งชิงดีกัน ซึ่งจะแก้ไขอย่างไรนั้นผู้นำต้องดีก่อน แต่เชื่อว่าองค์กรตำรวจจะไม่ล่มสลาย

และยังแนะ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ว่า หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องสู้ ส่วนจะสู้อย่างไรนั้นก็ให้ไปดูว่าการค้นบ้านครั้งนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และความเห็นส่วนตัวก็มองว่า พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ก็มีความรู้ความสามารถ

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังเสนอนายกฯ ว่า คนที่เหมาะจะนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ควรเป็น พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ เนื่องจากมีทั้งความอาวุโส และผลงานที่ชัดเจน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark