ต้องแก้ที่การศึกษา หมอพรทิพย์ แจงยิบ ปมถูกไล่ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์

หมอพรทิพย์ แจงยิบ ถูกไล่ออกจากร้านอาหารที่ ไอซ์แลนด์ ยืนยันไม่ฟ้อง หรือดำเนินคดีใดๆ ไม่ฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่ หากจะแก้ปัญหาแบบนี้ต้องแก้ที่การศึกษาอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะบางอย่างไม่ใช่เรื่องจริง พร้อมมอง เสพการเมืองมากไป จะมากระทบกับทุกอย่าง

วันนี้ (2 ต.ค. 66) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. เล่าถึง ทริปท่องเที่ยวตามแสงเหนือ ที่ไอซ์แลนด์ ว่าเป็นทริปที่วางแผนไว้นานแล้วร่วมกับเพื่อน สส.จากหลักสูตรสถาบันพระปกเกล้า โดยปกติจะเดินทางไปในช่วงที่มีการปิดสมัยประชุมสภาฯ แต่เนื่องจากติดช่วงเลือกตั้งกำหนดการต้องเลื่อนออกไปจึงเป็นในช่วงที่ผ่านมาแทน 

ส่วนเหตุการณ์ที่ถูกชายอ้างว่าเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ประเทศไทยแลนด์ ไล่ไม่ให้เข้าใช้บริการ นั้น คราวแรกคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไร แต่เมื่อถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ ส่วนตัวเจอกับเรื่องแบบนี้มามาก  เกียจกันทั้งที่ไม่รู้จัก ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจคนคนนั้น ยืนยันว่าจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดี กับชายคนดังกล่าว พร้อมมองว่าใด ๆ ในชีวิต ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะเราเคยทำ ดังนั้นจะไม่ตอบโต้ และ จะมุ่งหน้าทำความดีต่อไป ในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชายคนนั้น โดยไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด แต่เชื่อว่า หากยังอยู่ในร้านต่ออาจโดนทำร้ายร่างกายได้ เพราะถูกชี้หน้าไล่ เหมือนหมา ต่อหน้าคนในร้าน

สำหรับคนที่เห็นต่าง ส่วนตัวเข้าใจทุกฝ่าย นี่เป็นการเมืองในหลัก ไม่ใช่การเมืองเด็กยุคใหม่  มีเรื่องปิดปาก ผูกขาดเข้ามาเกี่ยวข้อง ในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา จึงก่อให้เกิด แรงกดดันที่ไปห้ามคนเหล่านั้นไว้ ส่วนตัว เคยคุยกับพรรคก้าวไกลแล้ว พร้อมโหวตให้ ขอเพียงถอย ม.112 หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างตอบไม่ได้  แต่หากจะแก้ ต้องแก้ที่ระบบการศึกษา อย่างเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ต้องวิเคราะห์เอง เพราะที่เห็นที่ฟัง บางที ก็ไม่ใช่ของจริง

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะกลายเป็นโดมิโน่ เกิดขึ้นกับ สว. คนอื่น หรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เชื่อว่าเป็นเรื่องกรรม ของ แต่ะคน จึงไม่เชื่อว่าจะเป็นโดมิโน ไปกระทบใคร เพราะมันขึ้นอยู่กับ การกระทบของแต่ละบุคคล พร้อมขอให้ทุกคนต้องช่วยกันสื่อสาร เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความก้าวร้าว ล่ามปาม จนทำให้เกิดผลกระทบกับตัวคนทำ  และ จะไม่ฝากอะไร ไปถึงคนรุ่นใหม่ เชื่อว่า ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปโดยธรรมชาติ แต่ทั้งหมดสะท้อนว่า เสพการเมืองมากไป จะมากระทบกับทุกอย่าง สว. ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นเพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่แยกแยะ เพราะคิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง

ส่วนประเด็นที่ถูกวิจารณ์ความไม่เหมาะสม เรื่องการขึ้นไปถ่ายภาพบนลาวามอสยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดไม่รู้ระเบียบหรือกฎหมาย ห้ามไว้ หรือไม่ และในระหว่างการเดินทางก็เห็นสารคดีโพรโมทการท่องเที่ยวของไอซ์แลนด์ก็มีภาพคนนอนอยู่บนลาวามอส จึงไม่ได้คิดอะไร ยืนยันว่าจุดไหนที่มีป้ายห้ามก็ไม่เข้าไป แต่จุดดังกล่าวมีที่จอดรถ จึงเข้าไป