ผบ.ตร. เผย ด.ช.14 ปี มือยิงมีประวัติป่วยจิต-ขาดยา

เช้านี้ที่หมอชิต - กลับมาต่อกันที่เหตุการณ์กราดยิงในห้างสยามพารากอน หลังรับทราบข้อมูลทั้งหมด ในช่วงเวลาประมาณ 19.20 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้ข้อมูลสำคัญยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติการรักษาทางจิตเวช ที่โรงพยาบาลราชวิถี และพบว่ามีการขาดการรักษา ไม่ได้รับประทานยารักษาโรคตามที่แพทย์กำหนด อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเรื่องของประวัติครอบครัว รวมถึงแรงจูงใจที่ใช้ในการก่อเหตุ เพื่อไม่อยากให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในสังคม

นอกจากนี้ยังยืนยันในส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุว่า เป็นปืน Blank Gun ดัดแปลง ดังนั้น ทั้งเรื่อง แหล่งที่มาของปืน รวมถึงการนำอาวุธปืนเข้าไปไปห้างสรรพสินค้าได้อย่างไร อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม สำหรับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี ถูกควบคุมตัวไปที่ สน.ปทุมวัน

ล่าสุดเวลา 23.20 น. ที่ สน.ปทุมวัน พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เชิญอัยการ, นักจิตวิทยา, ที่ปรึกษากฎหมาย และสหวิชาชีพ รวมถึงผู้ปกครองเข้าสอบปากคำเยาวชนคนดังกล่าว เบื้องต้นสภาพจิตใจของผู้ต้องหายังไม่เป็นปกติ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถสอบสวนได้ตามกฎหมาย คณะทำงานจึงลงความเห็นว่าจะเดินทางมาใหม่ในวันนี้ (4 ต.ค.) โดยให้เยาวชนพักผ่อนในห้องรับรองของ สน.ปทุมวัน

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเดินทางไปที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บ โดยระบุว่า รายที่ถูกกระสุนถากหลังพ้นขีดอันตราย สามารถพูดคุยได้แล้ว แพทย์แจ้งว่าไม่ต้องผ่าตัดและให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ พร้อมบอกด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้ป่วยไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนได้โทรศัพท์คุยกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อรายงานสถานการณ์ทั้งหมด ทูตจีนได้ขอบคุณในความใส่ใจของรัฐบาลไทย และซาบซึ้งใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงรับผู้บาดเจ็บทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เมื่อถามว่าห่วงกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เราจะให้ความระมัดระวังสูงสุด ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นหลังจากนี้ก็ทำอยู่ตลอด เพราะเราให้ความสำคัญสูงสุด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังโพสต์ข้อความผ่าน Facebook ระบุว่า สถานทูตจีนขอให้เรามีมาตรการที่ชัดเจน เพื่อทางสถานทูตจะช่วยสื่อสารข่าวสารให้ประชาชนเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบการท่องเที่ยว โดยนับจากนี้รัฐบาลไทยจะดำเนินมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศ ที่แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยจะประสานสถานเอกอัครราชทูตช่วยเหลือด้านต่าง ๆ และหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมมาตรการป้องกันเหตุเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

ล่าสุดมีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศเตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้ (4 ต.ค.) โดยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

เช่นเดียวกับ "สยามพารากอน" โพสต์ข้อความผ่าน Facebook แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ผู้บาดเจ็บปลอดภัย พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เข้ายุติสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง รวมถึงขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่พวกเราในวิกฤตการณ์ครั้งนี้