ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ช่อง 7HD เปิดใจตำรวจสยบเยาวชนอายุ 14 ปี ยิงกลางสยาม

สนามข่าว 7 สี - จากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสยามพารากอน ทีมข่าวยังได้สัมภาษณ์เปิดใจตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ จับกุมเยาวชนอายุ 14 ปี คนนี้ไว้ได้ ท่ามกลางกระแสชื่นชมจากโลกโซเชียลมีเดีย ว่าปฏิบัติตามยุทธิวิธีของเจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

ตำรวจที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิด มีด้วยกัน 3 นาย นำทีมโดย ร้อยตำรวจเอก ธัญอมร หนูนารถ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ปทุมวัน ซึ่งได้อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ แต่ขอไม่พูดถึงรายละเอียดเชิงลึกทางคดี เพราะอาจกระทบต่อกระบวนการสืบสวนสอบสวน

โดย ร้อยตำรวจเอกธัญอมร เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อตนเองทราบว่าเกิดเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอน และผู้ก่อเหตุเป็นเด็กอายุ 14 ปี ตนเองก็อาสาขอเข้าไประงับเหตุทันที แม้จะไม่ใช่ชุดปฏิบัติการพิเศษ แต่ก็เคยฝึกอบรมหลักสูตรเผชิญเหตุ Active Shooter มาแล้วหลายหลักสูตร ประกอบกับหากปล่อยให้เวลาผ่านไป อาจเกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้น โดยมุ่งมั่นที่จะระงับเหตุ หยุดคนร้าย หยุดการฆ่าให้ได้ เน้นการเจรจา และแสดงให้เห็นอาวุธปืนยาวของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เด็กรู้สึกกดดัน ไม่อยากสู้กับเจ้าหน้าที่ และยอมมอบตัว ซึ่งตนเองก็รู้สึกภูมิใจมากที่ทำภารกิจสำเร็จ จับกุมคนร้ายได้ และไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพิ่ม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงมาเป็นตำรวจ ร้อยตำรวจเอกธัญอมร ก็บอกว่า ก่อนจะมาเป็นตำรวจ เคยเป็นทหารราบอยู่ 2 ปี แต่เห็นว่าปัจจุบันไม่มีสงครามแล้ว และตนเองก็อยากทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ช่วยเหลือประชาชน จึงมาเป็นตำรวจได้ 30 กว่าปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยต้องเข้าระงับเหตุกราดยิงเช่นนี้มาก่อน แต่ก็จะคิดไว้เสมอว่า สักวันหนึ่งอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และก็ได้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา คิดเสมอว่าหากเจอต้องเอาอยู่ โดยหลายครั้งก็ไม่ได้คิดห่วงตัวเองเลยว่าอาจเป็นอันตราย

ทั้งนี้ ร้อยตำรวจเอกธัญอมร ยังฝากทิ้งท้ายถึงประชาชน หากเจอสถานการณ์เช่นนี้ ให้ยึดหลัก "หนี ซ่อน สู้" คือ หนีออกจากจุดเกิดเหตุโดยเร็ว อย่าห่วงสัมภาระหรือทรัพย์สิน แต่หากหนีไม่พ้น ให้หาที่ซ่อนที่ปลอดภัย มีประตูปิดมิดชิดและแข็งแรง หลังปิดประตูแล้วอาจนำโต๊ะ ตู้ มาปิดขวางประตูอีกชั้น พร้อมมองหาทางหนีทีไล่ และอาวุธต่าง ๆ ไว้ป้องกันตัว หากคนร้ายเจอตัว และต้องเผชิญหน้าสู้กับคนร้ายจริง ๆ อย่างไรก็ตามในกรณีที่เป็นผู้หญิง หรือเด็ก ประเมินกำลังแล้วว่าอาจสู้ไม่ไหว ให้ลองเจรจาพูดคุยให้คนร้ายเห็นใจ เพื่อถ่วงเวลาให้นานที่สุด เพื่อเจ้าหน้าที่อาจเข้าช่วยเหลือได้ทัน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark