ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ญาติเศร้ารับศพเหยื่อ ด.ช.อายุ 14 ปี กราดยิง

ข่าวภาคค่ำ - ญาติติดต่อเข้ารับศพ ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในห้างฯ สยามพารากอน นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดนนทบุรีแล้ว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยญาติยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ส่วนเด็กชายผู้ก่อเหตุ ศาลฯ มีคำสั่งให้นำไปควบคุมตัวที่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

ญาติของผู้เสียชีวิตสัญชาติเมียนมา เข้าติดต่อสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยนายจ้างของผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา ขอไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสัมภาษณ์ญาติของผู้เสียชีวิต เนื่องจากยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

สำหรับศพของผู้เสียชีวิต ถูกเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดผาสุกมณีจักร ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยจะสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืน ก่อนทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 9 ตุลาคม ส่วนศพผู้เสียชีวิตสัญชาติจีน ญาติยังไม่พร้อมที่จะมาติดต่อเข้ารับศพวันนี้

ด้าน พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 5 ข้อหา กับเด็กชายอายุ 14 ปี ฐานฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองฯ พกพาอาวุธปืนฯ และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการสอบปากคำพบว่า ผู้ก่อเหตุให้การวกวน ทีมจิตแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ ประเมินผลเบื้องต้นว่า "เด็กยังไม่พร้อมที่จะต่อสู้คดี" จึงชะลอเรื่องการสอบปากคำไว้ ก่อนจะให้พาตัวไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ไต่สวนฝากขัง

ขณะที่ ศาลฯ ตรวจสอบการจับกุม พบเป็นไปโดยชอบตามกฎหมาย ส่วนเรื่องอาการป่วยทางจิตเวช เนื่องจากยังไม่ได้ข้อยุติว่ามีอาการป่วยจริงหรือไม่ แต่การกระทำของผู้ต้องหาพิจารณาแล้วอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้อื่น จึงให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ที่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้สถานพินิจฯ ดำเนินการตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ต้องหา ทั้งนี้ ระหว่างดำเนินการยังไม่ปรากฏมีผู้ปกครองยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าหารือกับ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตั้งใจมาขอบคุณตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว เฉียบขาด ออกติดตามค้นหาญาตินักท่องเที่ยวชาวจีน จนสถานทูตจีนคลายความกังวล นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยเรื่องมาตรการยกระดับกฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน และการนำเข้า ที่มองว่ายังมีช่องโหว่อยู่

ส่วน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับ คดีที่เด็กและเยาวชนนำปืนมาใช้ก่อเหตุ ส่วนใหญ่เป็นปืนดัดแปลงมาจากปืนแบลงก์กัน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับการนำเข้าผ่านทางศุลกากร และไม่มีข้อบังคับต้องมีใบอนุญาตก่อนการสั่งซื้อ จึงทำได้เพียงสั่งการให้ตำรวจ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ ตั้งทีมเฝ้าระวังเว็บฯ ขายปืนเถื่อน และจะประสานกรมการปกครอง ยกระดับกฎหมายที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหานี้ต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark