|
ชายชาวนอร์เวย์วัย 58 ปี ถูกออกหมายจับ หลังหลักฐานมัดแน่น เป็นผู้ที่ฆ่าปาดคอแฟนหนุ่มชาวไทย
ชายชาวนอร์เวย์วัย 58 ปี ถูกออกหมายจับหลังหลักฐานมัดแน่น เป็นผู้ที่ฆ่าปาดคอแฟนหนุ่มชาวไทยคาบ้านพัก
ชายชาวนอร์เวย์ สารภาพแล้วปาดคอฆ่าแฟนหนุ่มชาวไทย อายุ 39 ปี เสียชีวิตในบ้าน ที่ ซอย 17 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน เล่าว่า ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันสองคน ไม่สนิทสนมมาก แต่ก็แค่ทักทายกันบ้าง ซึ่งปกติก็ไม่เคยได้ยินทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ผู้ตายยังเคยเล่าให้ฟังว่า คบกันมาได้ปีครึ่ง ก็รักกันดี แต่มีปัญหาค่าใช้จ่ายในบ้าน และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของ แฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นชายชาวนอร์เวย์ ก่อนเกิดเหตุล่าสุดผู้ตายได้มาบ่นให้ฟังว่า เวลาแฟนหนุ่มชายชาวนอร์เวย์ ไปหาหมอที่ รพ.ก็ไม่เคยให้เข้าไปรับฟังจากหมอว่าป่วยเป็นอะไร มีแต่ให้ไปรับไปส่งเท่านั้น เมื่อถามก็ไม่บอก จนมารู้ภายหลังว่าชายชาวนอร์เวย์ติดเชื้อ HIV และก็มีโรคอื่นๆอีกหลายโรค จนทำให้เดินแทบไม่ได้
เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน ยังเล่าอีกว่า วันเกิดเหตุตอนเช้า ตนเองออกไปทำงานได้เห็นผู้ตายถือมีดเดินออกมา เพื่อจะเอาผักสวนครัวไปทำกับข้าว หลังทักทายกันก็เดินเข้าครัวไป ส่วน ชายชาวนอร์เวย์ นั้น เห็นสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องครัวทุกเช้า จากการสังเกตในทุกวันจะเห็นชายชาวนอร์เวย์ ไม่ค่อยหลับค่อยนอน เดินไปมาภายในบ้าน ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุที่อาจทำให้ทะเลาะกัน น่าจะเป็นเพราะเรื่องของการเจ็บป่วย
จนกระทั้ง เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 4 ต.ค. 66 พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้นำตัวชายชาวนอร์เวย์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ต้องสงสัย ไปชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านอีกครั้ง โดยมีทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปเก็บรอยนิ้วมือและหลักฐานอื่นๆ รวมทั้งคราบเลือดตามจุดต่าง เพื่อเก็บไปพิสูจน์ว่าผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายในครั้งนี้หรือไม่
ล่าสุด พันตำรวจเอกภูวนาถ เผยความคืบหน้าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออศาลออกหมายจับชายชาวนอร์เวย์ แล้ว เนื่องจากพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุนั้น เชื่อมั่นได้ว่าชายชาวนอร์เวย์ แฟนหนุ่มผู้ตาย เป็นผู้ก่อเหตุฆาตรกรรมโหดในครั้งนี้ แม้ว่า ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ก็ตาม เบื้องต้นได้ควบคุมตัว ชายชาวนอร์เวย์ ให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีในข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น ตอนนี้ได้ควคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ สภ.เมือง เพื่อสรุปสำนวน หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยาน รวมทั้งรอผลชันสูตรจากนิติเวช เพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลในวันพรุ่งนี้
