ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

สั่งปูพรมค้น 2,300 แหล่งผลิต-ขายปืนเถื่อน

ข่าวภาคค่ำ - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอาวุธปืน บุกค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจังหวัด รวมกว่า 2,300 แห่ง ทลายแหล่งผลิตอาวุธปืนดัดแปลง จับกุมคนขายปืนผิดกฎหมาย

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการหารือในที่ประชุมภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ที่ประชุมสั่งให้เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอาวุธปืน โดยมีเป้าหมายกว่า 2,300 แห่ง ทั่วประเทศ ประกอบด้วย แหล่งรับซื้ออาวุธปืน, โรงงานผลิต และผู้ที่รับดัดแปลงปืนชนิด "แบลงก์กัน" ตามข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ที่จะส่งให้กับตำรวจแต่ละพื้นที่ไปดำเนินการตามแผน

ส่วนการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่ขายปืนให้เด็กชายอายุ 14 ปี พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนได้ขยายผลเส้นทางการเงินที่ เด็กชาย โอนเงินไป จนทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีก 2-3 ราย จึงให้พนักงานสอบสวนไปขอศาลออกหมายจับ หากได้รับหมายจับมาแล้ว ชุดสืบสวนจะเข้าจับกุมตัวทันที

ส่วนกรณีที่มีคนแชร์ภาพการแชตข้อความโดยใช้ถ้อยคำรุนแรงซ้ำเติมเหตุการณ์กราดยิง เบื้องต้นทราบข้อมูลว่ามีด้วยกัน 4-5 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบยืนยันความสัมพันธ์กับผู้ต้องหา และยืนยันตัวบุคคล ส่วนที่มีการเปิดเผยข้อมูลการซ้อมยิงปืนกว่า 20 ครั้ง ในสนามซ้อมยิงปืนแห่งหนึ่ง ยืนยันข้อมูลมาจากการลงพื้นที่สืบสวน ไม่ใช่ผลจากการสอบปากคำเด็ก

ด้าน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า แพทย์ได้เข้าประเมินสภาพจิตของเด็กชายแล้ว ลงความเห็นว่า ควรส่งตัวไปรับการบำบัดรักษาที่ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางประเมินอาการและวางแนวทางการรักษา อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้เด็กเข้ารับการรักษาตามความเห็นแพทย์จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ขณะที่ ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์ กระทรวงการต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงทั้ง 5 คน พบว่าทั้งหมดอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยมี 1 คน สามารถกลับบ้านได้แล้ว

ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางการไทยได้รวมเงินเยียวยาช่วยเหลือ คนละ 350,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวเมียนมา ทางการไทยร่วมกับภาคเอกชน จะมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา รวมคนละ 6.2 ล้านบาท

สำหรับการประกอบพิธีทางศาสนา ให้กับผู้เสียชีวิตสัญชาติเมียนมาในคืนที่ 3 ที่วัดผาสุกมณีจักร ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ยังคงมีนายจ้าง และเพื่อนร่วมงานไปร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยนายจ้างของผู้เสียชีวิต บอกว่า มารดาของผู้เสียชีวิต เดินทางจากเมียนมามาถึงไทยแล้ว แต่คาดว่าจะมาร่วมพิธีไม่ทัน จึงเตรียมเดินทางมาร่วมพิธีอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

ล่าสุด บิดาของเด็กชาย อายุ 14 ปี ได้ไปรวมพิธีสวดพระอภิธรรม พร้อมกราบขอขมาผู้เสียชีวิต และขอพบกับนายจ้างชาวเมียนมา พร้อมเปิดเผยว่า ตั้งใจมาขอขมาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ยืนยันจะร่วมเยียวยาต่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องทางคดีขอให้เป็นไปตามกระบวนการในชั้นศาล ขณะที่มารดาของเด็กชาย จะเดินทางมาร่วมขอขมาผู้เสียชีวิตด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark