คอลัมน์หมายเลข 7 : ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินคดีสนามฟุตซอล ปรับ-จำคุก 7 คน

ข่าวภาคค่ำ - คดีทุจริตสนามฟุตซอล ที่พบว่ามีการร่วมมือกันเป็นขบวนการ เกี่ยวพันถึงนักการเมืองหลายคน จากการติดตามความคืบหน้า พบว่าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้พิพากษาจำคุกจำเลยเบื้องต้นแล้ว 7 ราย ติดตามรายละเอียดใน คอลัมน์หมายเลข 7

เป็นคดีที่ คอลัมน์หมายเลข 7 เกาะติดขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณมาตั้งแต่ปี 2557 หลังพบว่าการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ปี 2555 ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดสรรให้กับโรงเรียน 356 แห่ง กว่า 10 จังหวัด ที่อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เพื่อสร้างสนามฟุตซอล โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ วงเงินงบประมาณ 4,500 ล้านบาท มีพิรุธหลายอย่างที่ส่อให้เห็นว่าน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น

การติดตามตรวจสอบ พบการกระทำผิดเป็นขบวนการ เกี่ยวพันถึงทั้งนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น และบุคลากรทางการศึกษา ส่งผลให้มีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ตรวจสอบ จบที่การชี้มูลคดียกแก๊ง แบ่งเป็นหลายสำนวน ซึ่งล้วนอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลทั้งสิ้น

ล่าสุด ประเดิมคำตัดสินจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาตัดสินจำคุกจำเลย 7 คน คนละ 4 ปี ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัทเอกชน และบุคลากรทางการศึกษาระดับผู้บริหาร

7 คนนำร่องที่ขาใกล้เข้าคุก ยังมีโอกาสอุทธรณ์ต่อ แต่ยังมีอีกเป็นโขยงที่รอคำตัดสิน ไม่ต่ำกว่า 60 คน เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ที่มีการทำร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยรูปแบบการทุจริตสนามฟุตซอล ใช้ สพฐ. เป็นแกนกลางในการตั้งงบประมาณ ส่งกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ มีนักการเมืองคอยผลักดันอยู่เบื้องหลัง ผ่านไปยัง ผอ.โรงเรียน ปัญหาหลักที่พบ คือ วัสดุไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ใช้งานได้ไม่นานก็พัง

หนึ่งในนักการเมืองระดับชาติที่ถูกดำเนินคดีแบบยกครัว คือ นายวิรัช รัตนเศรษฐ พร้อมภรรยา และน้องภรรยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดจากการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ กระทำการทุจริตเชิงนโยบายโดยจัดตั้งเอกชนที่เป็นพวกดำเนินการร่วมกัน โดยมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะที่ นายวิรัช ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต

สนามฟุตซอลวางวัตถุประสงค์ไว้อย่างเลิศหรู จะช่วยพัฒนากีฬาให้กับเยาวชนในพื้นที่หลายจังหวัด แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นสนามฟุตซอลที่ใช้งบประมาณแพงเกินจริง แถมใช้งานไม่ได้ เต็มไปด้วยข้อครหาเรื่องเงินทอน นำไปสู่การดำเนินคดีอย่างที่เห็น ถือเป็นอีกหนึ่งคดีใหญ่ ที่ถูกกล่าวหาว่า เริ่มคิดก็ทุจริตแล้ว ตั้งแต่วางนโยบาย สู่ปลายทางหาเงินเข้ากระเป๋า จบที่ความสูญเสียเงินภาษีประชาชน