ผัวยิงเมีย-ลูกสาว เจ็บสาหัส แม่กัดฟันพาลูกส่ง รพ. ส่วนพ่อยิงตัวตาย

เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มพนักงานเทศบาลนครหาดใหญ่ใช้อาวุธปืนยิงเมีย และลูกสาว อายุ 15 ปี บาดเจ็บสาหัส หัวใจคนเป็นแม่กัดฟันขับรถพาลูกสาวส่งโรงพยาบาล ก่อนตัวเองน็อกหมดสติ ส่วนสามียิงตัวเองตายคาบ้านพัก

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ตำรวจหน่วยสวาท จากชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เข้าควบคุมสถานการณ์และเจรจากับนายนงคาน อินแสง หรือ เมาส์ อายุ 46 ปี เป็นพนักงานรถดูดของเทศบาลนครหาดใหญ่ หลังใช้อาวุธปืนลูกกรด .22 ยิงนางสาวกุสุมา อายุ 44 ปี และลูกสาว อายุ 15 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านพักของงเจ้าหน้าที่เทศบาลนครหาดใหญ่ บริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียคูเต่า พื้นที่หมู่ 1 ตำบลคูเต่า

โดย นางสาวกุสุมา ถูกยิงเข้าราวนม 1 นัด ทะลุ ส่วนลูกสาว อายุ 15 ปี ถูกยิงเข้าขาขวา บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ แต่นางสาวกุสุมายังแข็งใจกัดฟันขับรถยนต์พาลูกสาวไปส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ด้วยตัวเอง ไปถึงโรงพยาบาลนางสาวกุสุมาได้ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนตัวเองน็อกหมดสติจากพิษบาดแผล เจ้าหน้าที่จึงนำทั้ง 2 คนเข้ารักษาเป็นการด่วน

ส่วนนายนงคานหลังยิงภรรยาและลูกสาว ก็หลบไปอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมขอให้มอบตัว แต่ไม่เป็นผล ผ่านไป 4 ชั่วโมง ถึงช่วงเย็นก็ได้ยินเสียงปืน 1 นัด จากห้องพักชั้น 2 ตำรวจรีบเข้าไปชาร์จ ก็พบว่านายนงคานยิงขมับตัวเองเสียชีวิตแล้ว

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน สาเหตุที่นายนงคานลงมือก่อเหตุนั้น มาจากปัญหาเรื่องความหึงหวงและแยกกันอยู่กับนางสาวกุสุมา ที่ผ่านมามีการตามง้อขอคืนดีให้กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเพื่อลูกสาว แต่ถูกนางสาวกุสุมาปฎิเสธ แต่ทุกอาทิตย์นางสาวกุสุมาก็จะมารับลูกสาวไปอยู่บ้านตนเอง ซึ่งนายนงคานฉวยโอกาสก่อเหตุ

ส่วนเพื่อนร่วมงานอีกรายบอกว่า ปีที่แล้วนายนงคานเคยก่อเหตุมาแล้วครั้งนึง จนตนต้องเข้าไปช่วยระงับเหตุคุยพูดหว่านล้อมให้ใจเย็นลง

เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 9 ตรวจสอบและเก็บหลักฐาน ก่อนมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ก่อนให้ญาตินำกลับไปจัดพิธีตามหลักศาสนาต่อไป