ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

แม่ร่ำไห้วอนช่วยลูกสาวถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอล จ.ขอนแก่น

เช้านี้ที่หมอชิต - นอกจากแรงงานไทยในอิสราเอลจะโดนยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว ยังมีแรงงานไทยอีก 11 คน ที่ตกเป็นตัวประกัน หัวอกผู้เป็นแม่ถึงกับร่ำไห้ ขอให้ช่วยลูกสาวที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

แม่ร่ำไห้วอนช่วยลูกสาวถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอล จ.ขอนแก่น
นางบุญญาริน ศรีจันทร์ ชาวบ้านตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น  แม่ของนางณัฐฐาวรี มูลกัน หรือ โย อายุ 35 ปี ร่ำไห้เสียใจอย่างหนัก หลังทราบข่าวว่าลูกสาวซึ่งเป็นแรงงานไทยในอิสราเอล ได้รับการยืนยันว่าถูกจับไปเป็นตัวประกัน

นางบุญญาริน กล่าวว่า ลูกสาวไปทำงานบรรจุมันเทศญี่ปุ่นที่อิสราเอลนานกว่า 5 ปี และพบกับหนุ่มไทยที่ไปทำงานด้วยกัน คือ นายบุญถม พันธ์ฆ้อง ปกติลูกสาวจะโทรมาคุยด้วยทุกวัน จนกระทั่งรู้ข่าวว่าลูกถูกควบคุมตัวจากเพื่อนของลูกสาว จึงพยายามติดต่อไปหาลูกหลายครั้ง แต่ยังติดต่อไม่ได้ ตอนนี้ห่วงลูกสาวมาก 

ก่อนหน้านี้เคยบอกให้ลูกกลับมาอยู่บ้าน แต่ น้องโย บอกว่า ขอทำงานต่ออีก 2 ปี ให้ครบกำหนดสัญญา จึงจะดินทางกลับไทย ตอนนี้ขออย่างเดียวคือให้รัฐบาลพาลูกสาวและคนไทยทั้งหมดกลับบ้านอย่างปลอดภัย

เมียภาวนาขอให้ผัวปลอดภัย ลั่นไม่ให้ทำงานต่างประเทศอีก จ.ศรีสะเกษ
ส่วนที่ตำบลหนองหญ้าลาด อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว นายโอวาส สุริยะศรี อายุ 40 ปี แรงงานไทยที่อิสราเอล หลังถูกจับเป็นตัวประกัน

ซึ่ง ญาติของนายโอวาส ที่ทำงานต่างประเทศ ได้ส่งภาพถ่ายขณะที่ชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารไม่ทราบฝ่าย พร้อมอาวุธปืน 2 คน ยืนบังคับให้สามีตน (ชายมีรอยสักที่หัวไหล่และแผ่นหลัง) พร้อมกับคนอื่น ๆ อีก 4 คน ถอดเสื้อนอนหมอบลงกับพื้น ซึ่งภรรยาจำรอยสักสามีได้

นางสาวกัญญารัตน์ สุริยะศรี อายุ 39 ปี ภรรยาของนายโอวาส เล่าว่า สามีไปทำงานสวนผักและผลไม้ที่อิสราเอลตั้งแต่ปี 2564 ปกติทุกวันจะคุยผ่านแช็ตเฟซบุ๊ก จนช่วงสายวันที่ 7 ตุลาคม สามีทักแช็ตมาบอกว่า "ยิงกันแล้ว" ซึ่งเป็นข้อความสุดท้าย จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จนแทบเป็นลม

สาเหตุที่สามีต้องไปทำงานต่างประเทศ เพราะอยากจะหาเงินเก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือ และนำมาเป็นทุนทำไร่ ทำสวน เพราะงานต่างประเทศหาเงินได้เร็วกว่าบ้านเรา แต่หากกลับมาครั้งนี้ตนจะไม่ให้สามีตนไปทำงานต่างประเทศอีกแล้ว

นางสาวกัญญารัตน์ ยอมรับว่า เป็นห่วงสามีมาก ได้แต่คิดว่าสามีคงปลอดภัย พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีพาคนไทยทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark