อิสราเอล ปะทะ ฮามาส ยอดตายทะลุเกินพัน

เช้านี้ที่หมอชิต - ไปติดตามสถานการณ์การปะทะเดือดระหว่างอิสราเอล และ กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ฮามาส

อิสราเอล ปะทะ ฮามาส ยอดตายทะลุเกินพัน
ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ถึงขณะนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายกว่า 1,100 คน เป็นฝ่ายอิสราเอลกว่า 700 คน ฝ่ายปาเลสไตน์กว่า 400 คน ถึงขณะนี้ภาพปฏิบัติการสายฟ้าแลบจู่โจมชุมชนอิสราเอลบริเวณฉนวนกาซา มีออกมาเรื่อย ๆ

เสียงระเบิดรุนแรงมากขนาดดูผ่านหน้าจอในห้องส่งยังสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน น่ากลัวจริง ๆ ภาพหนึ่ง เป็นช่วงกลางคืนแรงระเบิดแสบตาไปหมด จุดนี้คือสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เกิดซากปรักหักพังและเพลิงไหม้ทั่วไป บางคนกำลังอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย

บรรยากาศของเมืองเวลานี้เข้าสู่โหมดสงครามเต็มตัว รถถังวิ่งไปทั่วเมือง ขณะที่ผู้คนต้องใช้ชีวิตในพื้นที่หลบภัย เป็นสถานการณ์ที่น่าหดหู่มาก ๆ โดยเฉพาะสำหรับเด็ก

กต.สรุปแรงงานไทยดับในอิสราเอล 12 ราย ขอกลับไทย 1,437 คน
ความคืบหน้าล่าสุด อัปเดตเวลา 15.30 น. เมื่อวานนี้ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า มีรายงานคนไทยเจ็บเพิ่ม 1 คน รวมเป็นบาดเจ็บ 9 คน เสียชีวิต 12 คน รอยืนยันจากทางการ และถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน ทางการอิสราเอล แจ้งว่าได้ช่วยเหลือคนไทยได้จำนวนหนึ่งออกจากฉนวนกาซา และพื้นที่เสี่ยงมาอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนนักเรียนไทยที่ อิสราเอล 80 คน ได้รับคำยืนยัน ปลอดภัยทุกคน สำหรับตัวประกันที่ถูกจับ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับสถานทูตหลายประเทศ ที่มีความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ เพื่อขอสนับสนุนให้มีการปล่อยตัวประกันชาวไทย เช่น ทางทูตกัวลาลัมเปอร์ ขณะนี้ได้พบกับทูตของปาเลสไตน์ และได้แจ้งความกังวลของไทยแล้ว

ส่วนเรื่องการอพยพ มีคนไทยขอกลับไทย 1,437 คน และไม่ขอกลับไทย 23 คน ทุกหน่วยงานกำลังพยายามช่วยกันหาเที่ยวบินพาณิชย์ เพื่อไปรับคนไทยออกจากอิสราเอล กลุ่มแรกที่จะช่วยออกมา คือ ผู้บาดเจ็บคาดการณ์จะออกเดินทางจากอิสราเอลวันที่ 11 ตุลาคม ถึงประเทศไทยวันที่ 12 ตุลาคม เที่ยวแรก ประมาณ 15 คน

กลาโหมเตรียมเครื่องบินพร้อมอพยพคนไทย
เมื่อวานนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปตรวจเยี่ยมฝูงบิน 601 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อตรวจความพร้อมของเครื่องบิน C-130 และแอร์บัส 340 ที่จะใช้ในภารกิจอพยพคนไทยและลำเลียงผู้ป่วยในประเทศอิสราเอล นายสุทิน เผยว่า ตอนนี้กองทัพอากาศ มีความพร้อมเรื่องเครื่องบินและกำลังพลที่จะไปอพยพคนไทยในอิสราเอล เหลือเพียงต้องรอให้ได้รับอนุญาตจากประเทศอิสราเอลก่อน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินดำเนินการ ให้บินวันไหนพร้อมออกได้ทันที

หนี้สินทำแรงงานไม่อยากอพยพ ก้าวไกล แนะ 4 แนวทางช่วยเหลือ
ด้านฝ่ายค้านมีการขยับในประเด็นนี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ก่อนหน้านี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดอีเมล์ pita@moveforwardparty.org ให้แจ้งข้อมูลกรณีไม่สามารถติดต่อญาติที่อิสราเอลได้ พร้อมชี้แจงว่าเป็นการช่วยรวบรวมส่งข้อมูลประสานงาน "เฉพาะหน้า" กับทางการไทยและอิสราเอล จากวันที่เกิดเหตุมาถึงเมื่อวานเวลา 12.00 น. มีการแจ้งข้อมูลทั้งสิ้น 228 กรณี มีข้อมูลคนไทยที่เชื่อได้ว่าถูกจับเป็นตัวประกัน 9 กรณี ข้อมูลคนไทยอยู่ในเขตสู้รบ คนที่ต้องการความช่วยเหลือ กรณีญาติติดต่อไม่ได้ และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน รวมถึงข้อมูลคนไทยอยู่นอกเขตสู้รบ ส่วนเหตุผลว่าที่เปิดช่องทางรับข้อมูลนี้ เนื่องจากในช่วงแรกคนไทยในอิสราเอลอาจยังไม่ทราบช่องทางการติดต่อสื่อสารทางการ จึงติดต่อมาทาง ส.ส.ปีกแรงงาน คือ นายสุเทพ อู่อ้น เนื่องจากเคยประสานช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลต่อเนื่องมาตั้งแต่ความขัดแย้งครั้งล่าสุดเมื่อพฤษภาคม 2021 หรือ 2 ปีที่แล้ว พร้อมยืนยันว่า ขอยืนเคียงข้างและช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบเหตุเดือดร้อน และขอสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลไทยในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้ปลอดภัย

นอกจากนี้ เพจพรรคก้าวไกล ยังระบุว่า หนี้สินจากการกู้ยืมเพื่อเดินทางไปทำงาน อาจทำแรงงานไทยไม่อยากอพยพจากอิสราเอล จึงมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล 4 ข้อ คือ

1. คนงานต้องได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีกลับมาก่อน เนื่องจากประสบปัญหาจากภัยสงคราม

2. ให้รัฐบาลช่วยเจรจาอิสราเอล หากสงครามยุติลง ให้คนงานที่ถูกอพยพในสภาวะสงคราม สามารถกลับไปทำงานได้ตามเดิม

3. เสนอให้รัฐบาลเจรจาผ่อนผันหรือดูแลแนะนำประเด็นหนี้สินของคนงาน

4. กรณีคนงานไทยที่เข้าไปทำงานโดยไม่ผ่านกระทรวงแรงงาน หรือคนงานที่ลักลอบทำงานอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เสนอให้รัฐบาลดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน