แม่โวย! ลูกสาวขึ้นรถไฟไม่ทัน ทั้งที่มาถึงสถานีก่อนเวลา 1 นาที ล่าสุดการรถไฟฯ เปิดวงจรปิด ชี้แจงดรามา

คลิปที่เกี่ยวข้อง

แม่โวย! ลูกสาวขึ้นรถไฟไม่ทัน ทั้งที่มาถึงสถานีก่อนเวลา 1 นาที ล่าสุดการรถไฟฯ เปิดวงจรปิด ชี้แจงดรามา


แม่โวย ! ลูกสาวขึ้นรถไฟไม่ทัน ทั้งที่มาถึงสถานีก่อนเวลารถออก 1 นาที ล่าสุดการรถไฟฯ เปิดวงจรปิด ชี้แจงดรามา ยืนยันขบวนรถไฟออกตรงตามเวลา

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ หลังมีคุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์เรื่องราวลงในกลุ่ม "รถไฟไทย TrainThailand" ที่มีสมาชิกกว่า 2 แสนคน ระบุว่า ลูกสาวตกรถไฟขึ้นรถไม่ทัน ทั้งที่มาถึงสถานีก่อนเวลาออกรถ 1 นาที และทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีการแก้ปัญหาใดๆ ให้เลย โดยคุณแม่ท่านนี้ เขียนเล่ารายละเอียดว่า

ขออนุญาติสอบถามค่ะ พอดีลูกสาวตกรถไฟขึ้นรถไม่ทัน ในตั๋วเขียนขึ้นรถเวลา 15.24 น. แต่บังเอิญ รถติดฝนตกนิดนึงวันนั้น กว่าลูกจะมาถึงรถไฟออกพอดีแต่เป็นเวลา 15.23 น. รถไฟกำลังจะเคลื่อนตัว สงสัยนาฬิกาลูกเราเพี้ยนแค่ 1 นาที

ลูกวิ่งไปบอกคนโบกธง เค้าบอกไม่ทันทั้งๆ ที่รถไฟเพิ่งบีบแตร เวลาอีก 1 นาที สรุปไม่ทัน...อันนี้คือเหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.66 เวลา15.23 น. สอบถามผู้รู้ค่ะว่า ไม่มีการแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้เลยหรือคะ (รู้ว่าผิดที่คนของเรา แต่เคยเห็นผู้โดยสารมาไม่ทันรถไฟ เค้ายกธงรอจนขึ้น)



ซึ่งทันทีที่โพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตในกลุ่มต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ถกกันสนั่น บางคนบอกถึงก่อน 1 นาที เป็นเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป ควรจะเผื่อเวลาเดินทาง เป็นปัญหาของผู้โดยสาร การรถไฟฯ ไม่ผิด ขณะบางคนก็มองว่า หากยังไม่ถึงเวลารถออก ตามที่ระบุในตั๋ว ผู้โดยสารก็ถือว่ามาทัน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (10 ต.ค.66) เวลาประมาณ 21.30 น. การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ไม่ปล่อยให้กระแสดราม่าลุกลามไปมากกว่านี้ ร่อนแถลงชี้แจง หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด ยืนยันขบวนรถไฟออกตรงตามเวลา โดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

ตามที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข่าว กรณีผู้โดยสารที่เป็นเยาวชนเดินทางมาขึ้นรถไฟ ที่สถานีศาลายาไม่ทัน เนื่องจากขบวนรถมีการออกก่อนเวลา 1 นาทีนั้น นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุดังกล่าว นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที ซึ่งจากตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดภายในสถานี รวมถึงสอบถามข้อมูลกับนายสถานีศาลายาที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่าขบวนรถไฟได้เคลื่อนขบวนออกจากสถานี ตามเวลาที่กำหนดในตั๋วโดยสาร 15.24 น. ไม่ได้มีการออกก่อนเวลาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ รายละเอียดข้อมูลที่ปรากฏจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของนายสถานีศาลายามีรายละเอียดว่า ขบวนรถดังกล่าว คือ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ โดยในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ขบวนรถได้มาถึงที่สถานีศาลายา เวลา 15.20 น. (ก่อนกำหนดเวลา 3 นาที) ซึ่งตามปกติขบวนรถจะหยุดเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารประมาณ 1 นาที แต่ปรากฏว่าในวันดังกล่าว ขบวนรถได้หยุดที่สถานีศาลายาเป็นเวลา 4 นาที จนกระทั่งถึงเวลา 15.24 น. ซึ่งเป็นเวลาขบวนรถต้องออกตามที่ระบุในตั๋วโดยสาร นายสถานีศาลายาได้ออกมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของผู้โดยสาร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว และประตูขบวนรถไฟอัตโนมัติปิด จึงแจ้งให้พนักงานกั้นถนนนำเครื่องกั้นลง จากนั้นให้สัญญาณขบวนรถออกตามเวลาที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม หลังจากขบวนรถออกจากสถานีไปเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าได้มีผู้โดยสารเยาวชน 2 คน เข้ามาแจ้งนายสถานีว่า ไม่สามารถขึ้นขบวนรถได้ทัน ซึ่งจากการสอบถาม และตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้โดยสารเยาวชนทั้ง 2 คน ได้วิ่งเข้ามาคนละฝั่งซึ่งไม่ใช่จุดขึ้นลงขบวนรถ และขบวนรถได้ออกไปแล้ว จึงไม่สามารถแจ้งให้ขบวนรถหยุดได้ เพราะอาจกระทบต่อกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย แต่เพื่อเป็นการให้บริการที่ดี นายสถานีจึงให้ความช่วยเหลือแก่ 2 ผู้โดยสารเยาวชน ด้วยการจัดที่นั่งพักคอย และแนะนำให้ผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟในขบวนถัดไปที่จะมาถึงสถานีศาลายาในเวลา 16.42 น. เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้โดยสารทั้ง 2 คน ให้เดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

นายเอกรัช กล่าวเพิ่มว่า การรถไฟฯ ข้อแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารทุกคน รับทราบถึงข้อพึงระวังในการเดินทางด้วยรถไฟอย่างปลอดภัย โดยหากขบวนรถกำลังเคลื่อนออกจากสถานี ห้ามผู้โดยสารกระโดดขึ้นหรือลงจากขบวนรถเป็นอันขาด เพราะอาจพลาดพลั้งเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ และกรณีหากมาไม่ทันขบวนรถ ก็ขอให้รอเดินทางด้วยขบวนรถไฟถัดไป  ซึ่งท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะและคำติชมจากผู้โดยสาร ที่จะนำมาปรับปรุงการให้บริการรถไฟให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป


BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark