เปิดใจแรงงานไทย เล่านาทีหนีตายในอิสราเอล ราวกับหนังบู๊ ลั่นไม่คิดว่าจะรอดมาได้

เหตุการณ์จริงจากสงครามอิสราเอล หนุ่มแรงงานไทยผู้รอดชีวิต เปิดประสบการณ์เฉียดตาย หนีกลุ่มผู้ก่อเหตุ ลั่นไม่คิดว่าจะรอดมาได้  

วันนี้ (12 ต.ค.66)  ตอนนี้ดีใจมากครับที่ทุกหน่วยช่วยคนบาดเจ็บได้กลับมาประเทศไทยได้ชุดแรก ซึ่งตนนั้นถูกยิงที่หัวเข่า

โดยขณะที่เกิดเหตุตอนเช้ามีการสู้รบกันอย่างรุนแรง นายจ้างก็พาไปหลบภัยที่บ้านเขา แต่พอถึงเวลาเที่ยงนายจ้างบอกว่ามันสงบแล้ว นายจ้างจึงจะพามาเปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าว แล้วค่อยกลับไปบ้านนายจ้าง

แต่ทีนี้ระหว่างทางที่จะกลับเข้าที่พักก็มีเสียงลูกปืนยิงมาจากถนน ผมซึ่งเป็นคนอยู่ท้ายรถ สิ้นเสียงตนก็มองที่เข่าตัวเอง นึกว่าก้อนหินกระเด็นใส่ แต่มองชัดๆ กลับพบว่าตัวเองถูกยิง เพราะกระสุนได้ทะลุเข้าที่ขา จึงบอกให้เพื่อนๆ แรงงานหมอบลง พร้อมตบท้ายรถของนายจ้างเพื่อให้พาขับหนี  แต่ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็ไล่ยิงตามรถมาระยะหนึ่ง จนรถของตนเองขับหนีออกมาไกลพอสมควรจึงปลอดภัย ก่อนที่นายจ้างจะไปส่งไว้ที่บ้านญาติและแจ้งให้นำรถพยาบาลมารับตัว

ในวันดังกล่าวมีตนกับเพื่อนแรงงานนั่งอยู่บนรถรวมกัน 7-8 คน ซึ่งตนและเพื่อนโดนยิงรวม 4 คน  โดยเพื่อนคนหนึ่งโดนยิงเข้าที่แก้ม ในส่วนตัวคิดว่าวันนั้นไม่น่ามีชีวิตรอดถึงวันนี้ เพราะมันรุนแรงมาก เขายิงแบบรัวๆ เลย 

ขณะที่แรงงานอีกคนหนึ่ง เปิดเผยเรื่องการเก็บศพผู้เสียชีวิตว่า เรื่องศพของผู้เสียชีวิตทุกสัญชาติยกเว้นอิสราเอล เขาจะพิสูจน์ตัวตนง่ายเขาจะทำพิธีพิธีกรรมทางศาสนาของเขาเลย แต่ถ้าเป็นต่างชาติ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว เมียนมา พวกนักศึกษาถ้ามีถ้า เป็นฮามาส เขาจะใส่ถุงแล้วก็มัดเอาไปไว้รวมกัน แยกจากคนบ้านเขา แล้วเก็บในห้องเย็น ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายรอการพิสูจน์ตัวตน DNA พาสปอร์ตหลักฐานต่างๆ เพราะว่าเกิดเหตุในวันที่เสียชีวิตไม่มีใครพบเอกสารติดตัว