ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

นายกฯ วอนสายการบินเอกชน ช่วยนำคนไทยกลับประเทศ ระบุ เจรจาผ่านน่านฟ้าหลายประเทศเร็วสุด 48 ชม.


นายกฯ วอนสายการบินเอกชน ช่วยนำคนไทยกลับประเทศ ระบุ เจรจาผ่านน่านฟ้าหลายประเทศเร็วสุด 48 ชม. ย้ำ คุยทุกช่องทางปล่อยตัวประกัน  ยัน กต.ดูครบทุกมิติ ทำให้ดีที่สุด

วันนี้ (12 ต.ค.66) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล ครั้งที่ 5/2566 ว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและทางฮามาส มีพี่น้องชาวไทยที่อยู่ในเขตอันตรายแสดงเจตจำนงจะกลับประเทศแล้วประมาณ 6,000 คน โดยวันนี้ได้เดินทางกลับมาล็อตแรก แต่ยังมีอีกเยอะมากที่เราต้องลำเลียงกลับเข้ามา และมีความเข้าใจดีถึงความห่วงใยของญาติพี่น้องและความกังวลของผู้ที่อยู่ในจุดนั้น ซึ่งมีหลายปัญหา เช่น เรื่องไฟล์ทบิน

ตนได้หารือกับกองทัพบกและกองทัพอากาศจะเอาเครื่องบิน C 130 และแอร์บัส A 340 เริ่มบินเข้าไป โดยวันแรกจะออกจากที่นี่ในวันที่ 14 ต.ค. พร้อมขนเสบียงไปให้ด้วย และจะมีคนไทยเดินทางกลับเข้ามาประมาณ 140 คน แต่ตนได้สั่งการไปว่าลำเดียวไม่พอ โดยจะบินอีกครั้งปลายเดือน ต.ค. ซึ่งช้ามาก ที่ประชุมจึงเห็นว่าให้สั่งการเตรียมพร้อมเครื่องบินตั้งแต่วันนี้ โดยมีสายการบินพาณิชย์มาร่วมสนับสนุน อาทิ นกแอร์ 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ ส่วนการบินไทย พรุ่งนี้จะให้คำตอบว่าจะมีให้ได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินพิเศษมีการผ่านน่านฟ้าถึง 10 ประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานให้เร็วขึ้นเป็น 2 วัน เพราะในภาวะปกติจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนในการขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าของแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตาม หากวันนี้มีการตกลงว่าจะใช้เครื่องบินบินออกไปจะต้องมีการเจรจาทันที ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด 48 ชั่วโมงกว่าจะบินออกได้ จึงได้มีการสั่งการไปว่าขอให้เตรียมความพร้อมเครื่องบินทั้ง 4 ลำนี้ และอีกกี่ลำก็ตามจากการบินไทย ตรงนี้ได้มีการสั่งการขอให้เป็นความสำคัญสูงสุด

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ทูตไทยประจำอิสราเอลได้แจ้งมาว่ามีความพร้อมที่จะนำคนไทยออกมาจากจุดเสี่ยงทั้งหลายได้ประมาณวันละ 200 คน เฉลี่ยแล้ววันละลำ ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบเดือนกว่าจะลำเลียงออกมาหมด ขณะที่แรงงานบางคนมีปัญหาพาสปอร์ตหาย จึงสั่งการกับทูตในเรื่องงานเอกสารให้เป็นเรื่องรอง แต่เรื่องความปลอดภัยสูงสุดเป็นเรื่องสำคัญ โดยนายปานปรีย์ ได้เสนอว่าหากเราบินจากอิสราเอลไปไคโรหรือประเทศที่ 3 ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อนำคนไทยออกไปก่อน และเตรียมความพร้อมที่จะขนถ่ายกลับมาอีกที ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถทำให้เร็วขึ้นได้ ตรงนี้ทางทีมงานกำลังพิจารณากันอยู่ เพราะมีปัญหาว่าหากไปพักประเทศที่สาม แต่ไม่มีเอกสารเขาจะให้เข้าประเทศหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งละเอียดอ่อนทางการทูตที่เราต้องพิจารณาด้วย ทางเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกระทรวงการต่างประเทศ ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเพิ่ม โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตใกล้เคียงพยายามจะเข้าไปช่วยดำเนินงานทางด้านเอกสาร แต่ยืนยันว่างานด้านเอกสารจะไม่เป็นประเด็นที่จะไม่ให้พี่น้องคนไทยกลับมา ส่วนเรื่องการลำเลียงคนออกมาทางบกก็กำลังพิจารณาอยู่ แต่ก็เจอปัญหาใหญ่ เพราะต้องผ่านดินแดนกาซ่าจึงไม่สามารถผ่านออกมาได้ อย่างไรก็ตามยังเฝ้ามอนิเตอร์อยู่ในทางเรือ แต่ก็ต้องมีการเดินทางเส้นทางรถออกมาก่อน ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคำนึงถึงตลอดเวลา

"วันนี้ก็วิงวอนหากสายการบินเอกชนไหนที่พอจะช่วยได้ มีเครื่องบินเหลืออยู่ก็หวังว่าคงจะมาร่วมด้วยช่วยกันตรงนี้ และกระทรวงการต่างประเทศก็พร้อมที่จะประสานบินผ่านน่านฟ้าในหลายประเทศ เพราะถือเป็นภาวะสงคราม ยืนยันว่าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น แต่ทางรัฐบาลให้ความเป็นห่วงและให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องนี้" นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามถึงความพยายามในการเจรจา ขอปล่อยตัวประกันแรงงานคนไทย นายกฯ กล่าวว่า มีความพยายามในการเจรจาทุกช่องทางที่ทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคงขออนุญาตไม่เผยแพร่ แต่ขอให้มั่นใจว่าเราเจรจาทุกช่องทาง ซึ่งเรามีความหวัง ต้องพยายาม ต้องกดดัน เพราะเราเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้ง และต้องยอมรับว่าถ้าดูตารางผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ขัดแย้ง แต่กลับมีความสูญเสีย 20 กว่าคนแล้ว เชื่อว่าหลายประเทศก็ให้ความเห็นใจ ในเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการขอผ่านน่านฟ้า เราก็ขอวิงวอนและขอยืนยันว่าเราทำเต็มที่

เมื่อถามต่อว่า เครื่องบินการบินไทยมีข้อติดขัดอะไรที่ยังไม่สามารถระบุจำนวนเครื่องบินว่าจะส่งไปได้จำนวนเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ก็น่าเห็นใจการบินไทย เพราะเขาไม่มีเครื่องบินไปประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นเรื่องของงานเอกสารมากกว่าเรื่องเครื่องบินที่ถูกประกันไว้ แต่เขาอาจจะช่วยอีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องไปบินลงกรุงเทลอาวีฟ แต่ไปบินลงประเทศใกล้เคียง และให้สายการบินอื่น บินออกมาและเราไปรับจากที่นั่น เชื่อว่าการบินไทยมีความตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของแรงงานทุกคน ซึ่งดูในที่นี้แล้วรัฐมนตรีหลายท่านก็หน้าอิดโรยพอสมควร เรื่องนี้เป็นเรื่องของแรงบันดาลใจที่เรามีคนติดอยู่ที่นั่น 5,000 คน ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ เชื่อว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศทำงานอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ทูตฯ ที่ส่งไปเพิ่มเติมมีหน้าที่หลักคือ ช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หน้าที่หลักคือช่วยเหลือเบื้องต้นให้คนไทยออกมาโดยเร็วที่สุด ปลอดภัยที่สุด เพราะการเดินทางในประเทศอิสราเอลยังไม่ปลอดภัย ถนนหลายสายถูกบล็อก ซึ่งจะต้องมีการเชื่อมต่อและพูดคุยระหว่างหน่วยงานความมั่นคงให้อำนวยความสะดวกให้ทุกฝ่ายและผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ก็พยายามอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า ความคืบหน้าผบ.ทสส. ได้ประสานขอกำลังจากประเทศอิสราเอล เพื่อช่วยลำเลียงคนไทยในอิสราเอลทางรถยนต์อย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทูตฯ ได้ประสานมาว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดี เรื่องหนึ่งที่ตนเชื่อว่าญาติผู้สูญเสียก็มีความกังวลว่าเมื่อไหร่จะรับศพกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศล ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีความพยายามอย่างเต็มที่ เมื่อสักครู่ก็ได้พูดคุยกับทูตฯ ซึ่งทูตฯ ก็เร่งกดดันทางอิสราเอลอยู่ และเรื่องของการชันสูตรศพ รวมถึงเรื่องเงินชดเชย ซึ่งการเสียชีวิตในภาวะสงครามประเทศอิสราเอลจะมีเงินชดเชยให้ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเรานำศพกลับมาก่อนโดยที่ไม่มีการออกหลักฐาน อาจจะเคลมเงินได้ช้า ยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศดูครบทุกมิติ เราพยายามทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า วันพรุ่งนี้จะหารือกับน.ส.ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการพูดคุยในประเด็นใดเป็นพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องขอความเห็นใจ และพูดคุยว่าเราต้องการความช่วยเหลือทั้งเรื่องการลำเลียงศพออกมา หรือการเจรจาเรื่องตัวประกัน และเรื่องการลำเลียงแรงงานไทยที่ต้องการกลับประเทศไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและไปถึงสนามบินให้เร็วที่สุด รวมถึงเรื่องการเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินบินเข้าได้ ทั้งนี้ จะพูดคุยในทุกเรื่องและคงมีการพูดคุยเจรจากัน

เมื่อถามอีกว่า ได้ประสานสายการบินของประเทศอิสราเอลหรือไม่ เพราะวันนี้ 15 คนไทยที่เดินทางกลับเดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินของอิสราเอลที่มีการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ก็มีการพูดคุยกัน และอิสราเอลก็มีเครื่องบินของเขาที่ไปรับคนกลับมาจากต่างประเทศ และกลับออกไปใหม่จังหวะที่กลับออกไปใหม่นั้น ก็เป็นอีกทางเลือกที่อาจจะให้คนไทยบินออกไปประเทศที่เขาจะไปรับคนของเขา และเราส่งเครื่องบินไปรับในประเทศที่ไม่อันตราย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งสิ่งที่เราภาวนาอยู่คือไม่อยากให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ หรืออย่างน่านฟ้าปิดหรือมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันมันก็แย่อยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามีคนไทยอยู่ในพื้นที่สีแดงในอิสราเอล หลายคนแจ้งมาว่าถูกนายจ้างบังคับ ทำงานท่ามกลางสถานการณ์ที่แย่ นายกฯ กล่าวว่า แรงงานไทยที่อยู่ในพื้นที่สีแดงและถูกนายจ้างบังคับให้ทำงานได้ร้องเรียนมาแล้ว โดยวันพรุ่งนี้ก็จะมีการพูดคุยเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญในด้านสิทธิมนุษยชน และควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 ต.ค. เวลา 08.45 น. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการ หารือกับ น.ส.ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark