ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

รับศพเหยื่อรายที่ 3 เด็กชายอายุ 14 ปี กราดยิง

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ญาติของ "หนุงหนิง" หญิงสาวอายุ 30 ปี เหยื่อเหตุกราดยิงที่ห้างสยามพารากอน รายที่ 3 ได้ไปรับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ด้วยความโศกเศร้า

ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นางภาวิณี วราทวีสวัสดิ์ น้าสาว พร้อมมารดา และทนายความของนางสาวเพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ หรือ "หนุงหนิง" ได้เดินทางไปติดต่อขอรับร่าง เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางไผ่พระอารามหลวง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดบบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มารดาของ "หนุงหนิง" ยังทำใจไม่ได้ ร้องไห้ตลอดเวลา โดยมีน้าสาวของ "หนุงหนิง" คอยประคองอยู่เคียงข้างไม่ห่าง และขอไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ส่วนพิธีรดน้ำศพจะมีขึ้นในเวลา 16.30 น. วันนี้ และจะสวดอภิธรรมคืนแรกในเวลา 19.00 น. เป็นเวลา 7 คืน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจ

ก่อนหน้านี้ น้าสาวของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า หลานสาวเป็นพนักงานร้านกาแฟ เพิ่งทำงานที่ห้างฯ ที่เกิดเหตุได้ 3 เดือน ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงพักเบรก น้องเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะไปทานอาหาร เป็นช่วงที่คนร้ายกราดยิงพอดี น้องหยุดหายใจตั้งแต่ที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็มีการปั๊มหัวใจได้สำเร็จ แต่อาการยังโคมา ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและยากระตุ้น ยื้อไปได้ 10 วัน ก็จากไปอย่างสงบ

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจโท พงศธร เจริญชัยประกิจ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถเข้าไปสอบปากคำเยาวชนชาย ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว และรับการรักษาอาการทางจิตเวชที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เนื่องจากต้องรอให้แพทย์รักษาจนอาการดีขึ้น และสามารถให้ปากคำได้ก่อน โดยหากแพทย์อนุญาต พนักงานสอบสวนก็จะเข้าไปแจ้งข้อหาและสอบปากคำ โดยจะนำสำนวนการเสียชีวิตของคุณหนุงหนิงมารวมเป็นสำนวนเดียวกัน

ส่วนข้อหาที่จะดำเนินคดี เบื้องต้นยังคงเป็น 5 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่หากพยานหลักฐานพบว่าเข้าข่ายความผิดใดเพิ่ม พนักงานสอบสวนก็จะเพิ่มข้อหาตามขั้นตอน

ขณะที่การสอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องปากอื่น ๆ ยืนยันว่าคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% และมีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการดำเนินคดีในระดับหนึ่ง ทั้งกล้องวงจรปิดและพยานบุคคล ขาดเพียงสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งเบื้องต้นทางแพทย์แจ้งว่า กระบวนการรักษาอาจจะใช้เวลาไม่เกิน 45 วัน ก็น่าจะอาการดีขึ้นจนสามารถให้ปากคำได้

แต่ในทางปฏิบัติอาจระบุระยะเวลาที่ชัดเจนไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ต้องหาด้วย ดังนั้นหากท้ายที่สุดแล้ว พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาได้ พนักงานสอบสวนจึงจำเป็นต้องชลอคดีไว้ก่อน เพราะในทางกฎหมาย หากผู้ต้องหาไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ก็จะยังไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการของศาลได้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark