ชาวบ้านผวา! เจอแสงไฟคล้ายกระสือย่องกินไส้เป็ด จ.ลพบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องนี้ต้องบอกก่อนว่าขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับชม แต่ชาวบ้านที่ลพบุรียังอยู่ในอาการผวา กระสือสาวแก่ ออกอาละวาดในหลายตำบล ลอยวนตามกลางนา หลอกหลอนชาวบ้านจนหนีกระเจิง หนักสุดบุกล้วงกินไส้เป็ด และรกลูกหมูเพิ่งคลอด เผชิญหน้าเจ้าของคอกหมู แยกเขี้ยวใส่น่าสยดสยอง

กระสือสาวแก่กำลังเป็นข่าวที่สร้างความหวาดผวา ให้คนในพื้นที่หลายตำบลในเมืองลพบุรี รายแรกเป็นแม่ลูกอ่อนแรกคลอด ชื่อ นางสาววีณา อายุ 21 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลท้ายตลาด อำเภอเมืองลพบุรี เล่าว่า เมื่อต้นเดือนหลังคลอดลูก และพักฟื้นที่โรงพยาบาลได้ 3 วัน ก็พาลูกกลับบ้าน โดยทิ้งผ้าอนามัยเปื้อนเลือดจำนวนมากที่ถังขยะหน้าบ้าน คืนแรกก็เจอเลย ช่วงเวลา 02.00 น.เศษ ลูกร้อง ตนจึงตื่นขึ้นมาดูลูก เห็นแสงวาบ ๆ ที่หน้าต่าง เปิดม่านออกมาดู ก็พบสิ่งประหลาดลอยไปลอยมา

นางสาววีณา บอกว่า จนรุ่งเช้ามีชาวบ้านลือกันว่า มีกระสือแก่ผมขาวออกหากินกลางคืน หลอกหลอนชาวบ้านหลายราย เธอจึงเชื่อว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นกระสือแน่ ๆ ตกค่ำก็ปิดบ้าน ล็อกกลอนประตู-หน้าต่าง ไม่ออกจากห้องจนรุ่งเช้า ชวนลูกหลานมานอนเป็นเพื่อนอีกหลายคน และเขียนจดหมายติดหน้าบ้านไว้ว่า "ปิดบ้านแล้วห้ามเรียกทุกกรณี ลูกหลานต้องการนอน ขอบคุณที่เข้าใจ" และขนพระเครื่องต่าง ๆ เข้าห้องป้องกันไว้ก่อนเพื่อความอุ่นใจ

ส่วนคุณยายช่วย จันทร์เทศ อายุ 82 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 7 บ้านโพธิ์ตรุ เล่าว่า สองสามคืนก่อน ลูกหลานเจออะไรลอยไปมาหน้าบ้านคล้ายกระสือ หลายคนพยายามถ่ายภาพ แต่มันหนีไปก่อน แต่มีคนหนึ่งถ่ายไว้ได้ ซึ่งยายเกิดมาอายุกว่า 80 ปี ก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน จนตอนนี้ไม่มีใครกล้าออกไปปักเบ็ดหาปลา หากบเขียดกลางทุ่งนา เพราะเจอกันหลายราย วิ่งหนีกันกระเจิง

ส่วนหนักสุดคือ กรณีที่บุกเข้าไปในเล้าเป็ดเล้าหมูของ คุณลุงวิเชียร ดวงเกศ อายุ 70 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 11 ตำบลบ้านเบิก ที่เล่าว่าเจอจริง ๆ และเจอจะ ๆ ถึง 2 ครั้ง ตอนแรกนึกว่างูเหลือมมากินไก่ แต่สุดท้ายที่เห็นเป็นกระสือสาวแก่ผมขาวสลับดำ เผชิญหน้าจะ ๆ จ้องตาเขม็ง แยกเขี้ยวใส่ ตนใช้เสียมไล่ตีลอยหนีไปในความมืด ชาวบ้านบอกลองเอาเป็ดสดมาล่อ สุดท้ายถูกควักเครื่องในไปกินจนหมด ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้ได้ล้อมคอกหมู ล้อมเล้าเป็ดไก่ เปิดไฟฟ้าส่องสว่าง เอาลูกหลานมานอนเป็นเพื่อน เฝ้าระวังตลอดหลายคืน

ตอนนี้กระสือดังกล่าวยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่หลายตำบลในเมืองลพบุรี ลุงวิเชียร บอกว่า มันคงได้กลิ่นสาบของเป็ดไก่ และกลิ่นคาวจากรกหมูที่เพิ่งคลอด กระสือจึงย่องมากินกลางดึก ลุงวิเชียรทิ้งท้ายว่า ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่เชื่อเด็ดขาดว่าสิ่งนี้มีจริง