สุริยะ เปิดใช้รถไฟฟ้า 20 บาท ประเดิมสายสีม่วง-แดง

เช้านี้ที่หมอชิต - มาแล้วจ้า รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่าแต่มากี่โมง ดูเอาจากคลิปนี้ได้เลย

สุริยะ เปิดใช้รถไฟฟ้า 20 บาท ประเดิมสายสีม่วง-แดง
ยิ้มแป้นกันถ้วนหน้า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำทีมงานขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง ชูแบงก์ 20 บาท เป็นสัญลักษณ์แห่งการทำตามสัญญา รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

นายสุริยะ กล่าวว่า ครม. มีมติเห็นชอบให้ค่ารถไฟฟ้าปรับลดจากปัจจุบันเริ่มต้น 14 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท เหลือสูงสุด 20 บาทตลอดสาย เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป ซึ่งเดิมนายสุริยะ ประกาศว่าจะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ด้วยภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงเร่งรัดดำเนินการทันที เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ทั้งนี้จะนำร่องก่อน 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ จำนวน 16 สถานี และโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 10 สถานี และช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 4 สถานี

นายสุริยะ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างสายยังต้องเสียค่าโดยสารสองต่อ รวมถึงสายสีแดงและสีม่วงด้วย เนื่องจากระบบยังแยกกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบให้เชื่อมโยงข้อมูลกัน คาดว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะเชื่อมระบบข้ามสายสีแดงและม่วงได้ โดยมีอัตราสูงสุดอยู่ที่ 20 บาทตลอดเส้นทาง ส่วนเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ จะแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาร่วมกับภาคเอกชน เพื่อดำเนินการนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ให้ครอบคลุมโครงข่ายในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลทุกเส้นทาง ตามเป้าหมายภายใน 2 ปี

หลังการแถลง มีดรามาในโซเชียลตามมาว่า ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย อาจเป็นแค่โพรโมชันปีเดียว จะหมดอายุในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ทำให้ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย โพสต์ตอบโต้ผ่าน X ว่า "ไม่มีการให้สัมภาษณ์เรื่องหมดโปรฯ อะไรเลย ผู้สื่อข่าวอาจเข้าใจผิดในการนำเสนอ เพราะวันที่ 1 พฤศจิกายน รัฐบาลจะพัฒนาระบบ เสนอ พ.ร.บ.ใช้บัตรใบเดียวหลายสาย ในราคา 20 บาทค่ะ"

อย่างไรก็ตาม คงต้องมาลุ้นกันต่อว่าระบบตั๋วร่วม จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ เพราะมีเสียงสะท้อนว่า เส้นทางสายสีแดงและสีม่วงเป็นรถไฟชานเมือง ไม่ใช่สายที่มีผู้ใช้งานมาก และด้วยการที่มี การรถไฟแห่งประเทศไทย กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดูแล จึงสามารถกำกับราคาตามที่รัฐบาลต้องการได้ ขณะที่รถไฟฟ้าที่มีผู้ใช้งานสูง คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สีน้ำเงิน (และสีส้มในอนาคต) เป็นสัมปทานของเอกชนหลายเจ้า แม้บอกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการเจรจาราคา แต่ที่ผ่านมามีการพูดถึงระบบตั๋วร่วมมาแล้วหลายครั้ง ผ่านมาหลายรัฐบาลก็ไม่สำเร็จ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะเป็นไปได้จริง หรือจะหยุดอยู่แค่ 2 สาย เพียงเท่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตากันต่อไป

นอกจากนี้ มีการบ้านฝากไปถึงกระทรวงคมนาคม อีกเรื่องหนึ่ง มีหลายเสียงสะท้อนว่ารัฐบาลทุ่มพัฒนาเฉพาะระบบขนส่งให้คนกรุงเทพ แต่คนต่างจังหวัดไม่ได้รับการพัฒนา บางแห่งไม่มีขนส่งสาธารณะเลย ทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ อย่างที่ นางสาวนลัทพร ไกรฤกษ์ บรรณาธิการ ThisAble.me ซึ่งเป็นสื่อเกี่ยวกับประเด็นความพิการ ได้ลองตั้งประเด็นเที่ยวเชียงใหม่ด้วยขนส่งสาธารณะ ซึ่งนั่งวีลแชร์ไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ด้วยตัวเอง แต่รอแล้วรอเล่าจนแดดเปลี่ยนสี รอตั้งแต่บ่ายไปถึงเย็น ผ่านไปเป็นชั่วโมง ก็ไม่มีรถเมล์ผ่านสักคัน ยังไม่นับว่าเดี๋ยวนี้หลายประเทศพูดถึงรถเมล์รุ่นใหม่ ควรเป็นรถเมล์ชานต่ำ หรือเป็นขนส่งสาธารณะเพื่อคนทุกคน เพื่อให้ผู้พิการนั่งวีลแชร์สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสำหรับต่างจังหวัด ดังนั้น คงต้องฝากเรื่องการพัฒนาขนส่งสาธารณะในต่างจังหวัดเป็นโจทย์ให้รัฐมนตรีสุริยะขับเคลื่อนต่อไป

เศรษฐา ดีใจคนมองรถไฟฟ้า 20 บาททำได้เร็ว
นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เมื่อวานนั่งรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y เข้าประชุม ก.ตร. ก่อนประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล บอกเดือนหน้าต้องไปเจรจากับเทสลาให้เขามาตั้งโรงงาน เลยอยากให้เขารู้ว่าเราใช้รถยนต์เขาอยู่ด้วย

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความคืบหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่าบางคนมองว่าทำได้เร็วกว่าที่คาดไว้ ถ้ามองอย่างนี้ ตนก็ดีใจ เพราะบางคนบอกว่ายังทำไม่ได้ทั้งหมด อยากให้ทำให้หมดในเวลาเดียวกัน แต่วันนี้ทำได้แค่นี้ อะไรทำได้ก็ทำก่อน ประชาชนจะได้ใช้ก่อนในเวลาที่เหมาะสม

พีระพันธุ์ แย้มลดราคาเบนซิน อีกลิตรละ 2.50 บาท เป็นของขวัญปีใหม่
ยังมีข่าวดีเกี่ยวกับการลดภาระค่าครองชีพออกมาจากที่ประชุม ครม. อีกเรื่อง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมพิจารณาแนวทางการปรับลดราคาค่าน้ำมันเบนซิน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนลงอีก เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ตั้งใจว่าลดให้ไม่น้อยกว่าดีเซล แต่ต้องหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง เช่น ลดลงประมาณ 2.50 บาทต่อลิตร แต่ตัวเลขชัด ๆ คงต้องไปหารือก่อนว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน