หมอวรงค์ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ชง ศาลปกครอง ระงับโครงการแจก เงินดิจิทัล

“หมอวรงค์” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ชง “ศาลปกครอง” ระงับโครงการแจก “เงินดิจิทัล” 10,000 บาท หวั่นเป็นการฟอกเงินครั้งใหญ่ เสี่ยงทุจริตซ้ำรอย “จำนำข้าว”

เช้าวันนี้ (18ต.ค.66) นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอเรื่องต่อศาลปกครอง ให้มีคำสั่งระงับโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบการเงินการคลังของประเทศไทยในอนาคต และ เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เป็นตัวแทนรับหนังสือ

ทั้งนี้ นายแพทย์วรงค์ ยกเหตุผล 7 ข้อ ถึงความจำเป็นที่ควรระงับโครงการดังกล่าว ดังนี้ 

1.การแจกเงินให้ผู้มีอายุเกิน 16 ปี ทุกคน คนละ 10,000 บาท สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐี หรือมหาเศรษฐีได้รับหมด

2.เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังอยู่ในระยะฟื้นตัว ไม่มีความจำเป็นที่รัฐจะใช้งบประมาณจำนวนมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

3.รัฐควรเน้นการใช้จ่ายภาครัฐ สร้างศักยภาพในการลงทุน และการส่งออก

4.โครงการดังกล่าว อาจจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น

5.รัฐมีงบประมาณจำกัด การใช้งบประมาณจำนวนมากถึง 560,000 ล้านบาท ไปแจก ทำให้รัฐเสียโอกาสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

6.ประเทศไทยอยู่ในวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น การก่อหนี้จำนวนมาก จะทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องเผชิญอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

7.หนี้สาธารณะปัจจุบันสูงถึง 61.6% ของรายได้ การกู้เงินเพื่อนำเงินมาแจก จะทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้นอีก

นายแพทย์วรงค์ ระบุว่า หากมองภาพรวมแล้วจะเกิดผลเสีย มากกว่าผลดี ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน อีกประเด็น คือ ทำไม
ไม่แจกเป็นเงินสด หรือ เงินบาท ทำไมต้องแจกเป็นเงินดิจิทัล หรือ เงิน Token ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์แก่คนจน และ มองว่า Token เหล่านี้จะไปกองอยู่ที่นักธุรกิจ และ จะเกิดการฟอกเงินสีเทาครั้งใหญ่ เป็นการอุ้มคนรวย โดยเอาคนจนมาบังหน้า อีกทั้ง โครงการดังกล่าว มีอะไรหลายอย่าง เหมือนโครงการจำนำข้าว สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  จึงอาจเกิดปัญหาทุจริตตามมาได้