ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

จับ 1 ใน 4 บัญชีม้า หลอกขาย iPhone 13 ให้นักเรียน ม.6

เช้าข่าว 7 สี - จากเหตุสลดใจที่เด็กนักเรียนหญิงอายุ 19 ปี ชั้น ม.6 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกขายโทรศัพท์ยี่ห้อ iPhone รุ่น 13 แล้วเชิดเงินปิดเพจหนีไป คดีนี้ถูกโอนมาให้ตำรวจไซเบอร์ทำต่อ นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรก 5 คน จับกุมได้แล้ว 1 คน

จดหมายที่เขียนลงกระดาษแบบมีเส้น ใจความระบุว่า "แม่ ตามด้วยชื่อแทนตัวของผู้เสียชีวิต ขอโทษนะ โง่เอง อยากผ่อนโทรศัพท์แต่ไม่ดูให้ดีกว่านี้ แม่โอนเงินคืนเพื่อน 2 คน ที่ให้ยืมเงินด้วยนะ ฝากโอนคืน 5,500 บาท และ 2,600 บาท ก่อนจะเขียนต่อว่า ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะจ่ายเงินไปตั้ง 18,500 รวมของเพื่อน 2 คนนี้แล้ว ขอโทษจริง ๆ รักแม่นะ ส่วนอีก 2 บรรทัดสุดท้ายมีใจความหนึ่งน่าสนใจ เขียนว่า "ขอโทษนะแม่ ไม่ได้คิดสั้นนะแม่ คิดแล้ว" พร้อมกับลงท้ายด้วยสัญลักษณ์หน้ายิ้ม

นี่เป็นจดหมายที่เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เขียนทิ้งไว้ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง สร้างความเศร้าเสียใจกับครอบครัว เพื่อน และครูอาจารย์ที่ทราบข่าว และต้องนับเป็นเหตุการณ์ที่ 2 ที่เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้กับเด็กนักเรียน ถูกมิจฉาชีพหลอกขายโทรศัพท์มือถือ แล้วหาทางออกไม่ได้ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองอย่างน่าเศร้าสลด

พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังรับโอนคดีนี้ว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด, เส้นทางการเงิน, ข้อมูลผู้ใช้โซเชียล และข้อมูลเครือข่ายโทรศัพท์ เพื่อไปขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเบื้องต้น 5 คน ประกอบด้วยผู้เปิดบัญชีธนาคารให้มิจฉาชีพ 4 คน และคนที่ใช้เพจเฟซบุ๊กหลอกลวงผู้เสียหายแล้ว เบื้องต้นพบว่าคดีนี้มีบัญชีม้า 4 แถว แถวแรก คือ นางสาวดอกแก้ว ที่อยู่ในจังหวัดชัยภูมิ ที่เหลืออีก 3 แถว อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ยอดเงินบางส่วนยังอยู่ปลายแถวที่ 4 บางส่วนมีคนไปกดถอนเงินออกไป จากปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ห่างจากชายแดน 3 กิโลเมตร ก่อนที่ตำรวจจะอายัดบัญชี

ต่อมาตำรวจ สอท. 5 ได้ควบคุมตัว นางสาวดอกแก้ว อายุ 23 ปี หนึ่งในบัญชีม้ารับโอนเงิน ได้ที่บ้านพักในจังหวัดชัยภูมิ โดยเจ้าตัวพูดทั้งน้ำตา ยืนยันว่า ไม่เคยนำสมุดบัญชีธนาคาร และบัตรประชาชนไปให้คนอื่น ไม่เคยขายของออนไลน์ รู้สึกตกใจ และเครียด ที่รู้ว่าคดีนี้ทำให้เด็กนักเรียนเสียชีวิต ก่อนจะนำตัวไปสอบปากคำที่ บก.สอท.5 โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวนางสาวดอกแก้ว มาพร้อมกับแม่ ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งเครียดและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา และไม่ยอมตอบคำถามต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด

พลตำรวจตรี ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการ สอท. 5 เปิดเผยว่า นางสาวดอกแก้ว ให้การว่าไม่ได้เปิดบัญชีด้วยตัวเอง แต่มีคนมาจ้างให้เปิดบัญชี 300 บาท จึงตอบตกลงและทำตาม แต่ก็ไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าบัญชีชื่อของนางสาวดอกแก้วถึง 3 บัญชี ซึ่งต้องทำการขยายผลต่อ

ส่วนการติดต่อซื้อขายโทรศัพท์มือถือกับผู้เสียชีวิต นางสาวดอกแก้ว ให้การว่า ติดต่อกันผ่านทางออนไลน์ เมื่อช่วง 3 เดือนที่แล้ว ซึ่งได้โอนเงินเข้าบัญชีม้า 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 18,500 บาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีม้าของนางสาวดอกแก้ว พบว่า นอกจากจะมีเส้นทางการเงินของผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีเงินที่ถูกโอนเข้ามามีความเชื่อมโยงกับเหยื่ออีก 4 คน ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ สน.ห้วยขวาง, สน.หัวหมาก, สน.บุคคโล และจังหวัดนครศรีธรรมราช เชื่อว่าเป็นบัญชีที่ใช้ไว้ในการกระทำความผิด ซึ่งต้องขยายผลต่อ

สำหรับเส้นทางการเงินบัญชีม้า ของนางสาวดอกแก้ว พบว่า หลังจากรับโอนเงินจากเด็กนักเรียนชั้น ม.6 ที่เสียชีวิต ได้มีการโอนต่อไปยังบัญชีม้าอีก 3 บัญชีทันที ซึ่งตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 คน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในความฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามฐาน พรบ.คอมพิวเตอร์ และอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัว

ส่วน นางสาวดอกแก้ว ตำรวจจะควบคุมตัวไว้สอบปากคำอย่างละเอียด และแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนั้นจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกต่อไป

ส่วนที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ นางสาวธัญญาลักษณ์ อายุ 27 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ถูกนำภาพร้านที่ตัดต่อแล้วใช้หลอกนักเรียนหญิงชั้น ม.6 นำหลักฐานไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ ยืนยันว่า ร้านของตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ พร้อมกับแจ้งความเอาผิดมิจฉาชีพกลุ่มนี้

นางสาวธัญญาลักษณ์ ยอมรับว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับทางร้านพอสมควร มีคนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามกับทางร้านจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าที่เคยซื้อขายโทรศัพท์กับทางร้าน ต้องคอยอธิบายความจริงเกือบทุกสาย พร้อมยืนยันว่าร้านของตน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิฉาชีพกลุ่มนี้แต่อย่างใด

ส่วนที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ชุดสืบสวนตำรวจไซเบอร์ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามข้อมูลที่ตั้งร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ที่ส่งให้กับนักเรียนหญิงผู้เสียชีวิต เบื้องต้น ชาวบ้านที่พักอาศัยในพื้นที่มานานกว่า 30 ปี ยืนยันว่า จุดที่ตำรวจไปค้นหาเป็นที่ตั้งของร้านขายอาหาร ที่ปิดให้บริการไปได้ 4-5 ปีแล้ว ไม่ได้ประกอบอาชีพซื้อขายโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark